Page 317 - kpi17721
P. 317
สภาพการเมืองภายในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
นายกเทศมนตรีเคยดำรงตำแหน่งรองนายกเทศมนตรีมาก่อน ช่วงปีพ.ศ. 2553 และต่อมามี
ประเด็นเรื่องร้องเรียนจากสภาพปัญหาการบริหารงานของเทศบาลภายใต้การนำของนายกเทศมนตรี
ท้องถิ่นใจดี คนก่อนหน้า ซึ่งเคยเป็นอดีตข้าราชการครูและลงสมัครเลือกตั้งนักการเมืองระดับจังหวัดโดยเป็น
สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด 1 สมัยซึ่งได้รับความเชื่อใจจากประชาชนเพราะชูความเป็น
คนอำเภอบ้านฝาง เมื่อหมดวาระการดำรงตำแหน่งก็ลงสมัยที่สองหากแต่พ่ายแพ้แก่สมาชิก
สภาจังหวัดคนก่อนหน้าคือ นายรังสรรค์ ตั้งวาณิชกพงษ์ ที่เป็นคนอำเภออื่นแต่มาลงรับสมัครเลือกตั้ง
ในเขตอำเภอบ้านฝาง ทั้งนี้ นายรังสรรค์เองก็เป็นเครือญาติกับผู้บริหารขององค์การบริหารส่วนจังหวัด
อีกด้วย โดยอดีตนายกเทศมนตรีต้องหันเหวิถีชีวิตทางการเมือง จากเวทีท้องถิ่นระดับจังหวัดมาลง
สมัครรับเลือกตั้งนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลบ้านฝาง และบริหารงานเรื่อยมาจนต่อมามีการสั่ง
ปลดรองนายกเทศมนตรี (นายกเทศมนตรีคนปัจจุบัน) และเป็นเหตุทำให้เกิดการขับเคี่ยวทาง
การเมืองท้องถิ่นโดยความไม่ชอบธรรมของนายกเทศมนตรีคนก่อนหน้านี้ ที่มีการกล่าวถึงกันว่ามี
พฤติการณ์ที่เคลือบแคลงสงสัยในการบริหารงานหลายประการ และยังมีข้อกล่าวหาต่างๆ เช่น
เรื่องการร้องเรียนเรื่องรับผลประโยชน์ในการบรรจุแต่งตั้งพนักงาน หรือกรณีการจัดซื้อจัดจ้างที่ไม่
โปร่งใส ข้อกล่าวหาเหล่านี้ต้องการความกระจ่างชัดซึ่งต้องพิสูจน์ทราบในกระบวนการยุติธรรมต่อไป
หากแต่ในทางการเมืองสิ่งที่ประชาชนสามารถทำได้หากเห็นว่าการบริหารงานของผู้บริหารหรือ
การสร้างเสริมพลังให้กลุ่มเยาวชน ประชาธิปไตยและเป็นการยืนยันอำนาจอธิปไตยที่เป็นของประชาชนอย่างแท้จริง
สมาชิกสภาท้องถิ่นไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์หรือความประสงค์ของประชาชนแล้วสิ่งที่สามารถทำได้
โดยอำนาจทางการเมืองในท้องถิ่นคือ “การถอดถอน” อันเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของพลเมืองในระบอบ
การถอดถอนผู้บริหารท้องถิ่นของเทศบาลตำบลบ้านฝางได้ประสบความสำเร็จ ด้วยพลังของ
พลเมืองและยังเป็นกรณีศึกษาหนึ่งที่สำคัญในการศึกษาการเมืองภาคพลเมืองในระดับท้องถิ่นที่โด่งดัง
ไปทั่วประเทศ เกี่ยวกับการถอดถอนผู้บริหารท้องถิ่นออกจากตำแหน่ง ทั้งนี้ตามกฎหมายว่าด้วยการ
ลงคะแนนเสียงเพื่อถอดถอนสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2542 ต้องมีผู้มาออกเสียง
เกินกว่ากึ่งหนึ่งของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง และผู้มาลงคะแนนเสียงสามในสี่ มีความเห็นว่าไม่สมควรให้ดำรง
2
ตำแหน่งต่อไปจึงจะพ้นจากตำแหน่ง แม้วุฒิสาร ตันไชย ได้กล่าวถึงปัญหาหลักในการเข้าชื่อร้องขอ
ให้มีการลงคะแนนเสียงถอดถอนสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่นว่าเป็นผลมาจากการกำหนด
เงื่อนไขของจำนวนผู้มาใช้สิทธิลงคะแนนเสียงถอดถอนไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่ง ของจำนวนผู้มีสิทธิ
ลงคะแนนเสียงทั้งหมด ในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และต้องมีผู้ลงคะแนนเสียงเห็นด้วยกับ
2 อรทัย ก๊กผล และฉัตรระวี ปริสุทธิญาณ, “กฎหมายการมีส่วนร่วมของประชาชนในการบริหารงานของ
องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น...เพียงพิธีกรรมหรือเสริมอำนาจประชาชน?,” การประชุมวิชาการระดาติ กฎหมายกับ
การกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น Law and Decentralization to Local Agencies (อุบลราชธานี: คณะนิติศาสตร์
มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี, 2554), หน้า 32.
10 สถาบันพระปกเกล้า