Page 398 - kpi17073
P. 398
การประชุมวิชาการ
สถาบันพระปกเกล้า ครั้งที่ 16 397
แถลงว่า มีกระบวนการแต่การแถลงนั้นต้องชัดเจนมีรายละเอียด ที่ผ่านมาเหมือนกับว่า ป.ป.ช.
ก็ทำไป สรุปแล้วผมอยากจะบอกว่าต้องน้อมนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง มาเป็นวิถีชีวิตสร้าง
ธรรมาภิบาล โดยปรับ พรฎ.เป็น พ.ร.บ. ค่านิยมความซื่อตรง “โตไปไม่โกง” เป็นโครงการที่ดีมากๆ
และผมสนับสนุนขณะที่ผมทำงานกับศูนย์คุณธรรม เคยถามผู้เกี่ยวข้องในรายการโทรทัศน์
โรงเรียนทั้งหมดใน กทม.ใช้ แต่ สพฐ. กระทรวงศึกษาไม่สนใจ มันน่าเศร้า ฝากเรื่องนี้สะท้อนไป
ถึงด้วย สิ่งที่กระทรวงศึกษากลัว คือ ถ้าเข้าโครงการแล้ว ผู้บริหารและครูต้องมาเข้าก่อนเพื่อเป็น
แบบอย่างแล้วจะเข้าโครงการได้ ของอาจารย์จุรีได้ผลมาก ขณะนี้มีโครงการต่อเนื่องของคุณดนัย
เรื่องดีพาสปอร์ต คนที่เรียนอาชีวะ เมื่อทำงานแล้วจะมีดีพาสปอร์ตว่า คุณเป็นคนดีจะมีสิทธิ์
ได้ทำงาน ต้องขยายให้ข้างบนรู้สึก การสร้างพลัง ปรับปรุงกฎหมายสินบน ปราบปรามเร็ว
รังเกียจคนโกง กฎหมายที่ต้องออกมาสามฉบับนี้คือ การอนุวัตให้เป็นไปตามสัญญา
สหประชาชาติ สาระสำคัญคือเรื่องของสินบน เป็นอาชญากรรมระหว่างประเทศ ก็จะต้องมี
กระบวนการในการติดตามทรัพย์สินในประเทศนั้นคืนให้กับเจ้าของประเทศ หลักการของ
อนุสัญญาสหประชาชาติ ประเทศไทยมีกรณีหนึ่งคืออดีตผู้บริหารรับสินบนจากอเมริกา คนอเมริกา
ติดคุกออกมาแล้ว คนไทยยังไม่ถูกดำเนินคดีเพราะกฎหมายยังไม่แก้ ครั้งนี้ กฎหมายฉบับนี้
ทราบว่าตอนสมัยนายกยิ่งลักษณ์ ยุบรวมเป็นสองฉบับผมไม่แน่ใจว่าสาระครบถ้วนหรือไม่
กฎหมายสามฉบับนี้ ผมตามตลอดระหว่างที่เป็น ส.ว.ก็ทุกรัฐบาลไม่ยอมออก คือล่าช้า กฎหมาย
ตัวนี้เรียกว่ากฎหมายเจ็ดชั่วโคตร ก็ผ่าน สนช. 49 คนร้องศาล กระบวนการตกไป ผมทำฉบับนี้
เองเป็นกฎหมายให้ความรู้ว่าการขัดกันแห่งผลประโยชน์หมายถึงอะไร ยกตัวอย่างคุณเป็นเจ้า
หน้าที่ของรัฐ คุณขายที่ดินแปลงนี้ในราคาเหมาะสม ถ้าเกินมาตรฐานการค้าก็ผิดติดคุกด้วยหรือ
คุณซื้อสร้างบ้านถมที่ปรากฏว่า มีคนมาให้ในราคาถูก โดนด้วย จัดงานแต่งงานลดราคากรณี
พิเศษโดน นี่คือกฎหมายฉบับนี้ที่คนบอกว่ามันหนักหนาสาหัส อาจารย์บวรศักดิ์เป็นผู้แปรญัตติ
อันหนึ่งว่า ผลประโยชน์อาจคำนวณได้เป็นเงิน 11 ข้อ อายุความ เป็นกฎหมาย ป.ป.ช. ตัวสุดท้าย
อายุความเป็นสามสิบปี แต่ตอนนี้กฎหมายที่ออกมาแล้วคือ อายุความหยุดอยู่ ถ้าคุณหนีคุณกลับ
มาอายุความจะบวกไปจนครบสามสิบปี สุดท้ายกฎหมายสินบนในหลายประเทศมีโดยเฉพาะ
แต่บ้านเรายังไม่เคยคิดทำ เรื่องการจัดซื้อจัดจ้างการแก้ไขของ ป.ป.ช. ออกมาแล้ว ภาคประชาชน
ตรวจสอบได้ มาตรา 103/7 วรรคแรกเป็นเรื่องราคากลางจะต้องระบุวิธีการคำนวณ ประกาศ
ทางเว็บไซต์ อันนี้กรมบัญชีกลางได้กำหนดประกาศแล้วการดำเนินการเรียบร้อยแล้ว ตรวจสอบได้
ส่วนวรรคสอง กรมสรรพากร คู่สัญญาของรัฐที่ได้รับงบประมาณไปต้องทำรายละเอียดการใช้ส่ง
ให้สรรพากรพร้อมกับการเสียภาษีประจำปี ป.ป.ช.ก็จะเรียกจากสรรพากร มาดูว่ามันตรงกันหรือไม่
แต่สรรพากรยังทำไม่เสร็จ อีกส่วน กสทช. มันผิดพลาดทางเทคนิคตอนที่กฎหมายนี้เข้าสภา
ผมขอแปรญัตติไปว่าระเบียบ กสทช.ทุกอย่างขอให้ผ่านความเห็นชอบจากกระทรวงการคลัง
แต่ไม่สำเร็จ กสทช.จึงออกระเบียบได้เอง จริงอยู่มันฟุ่มเฟือยแต่เขาไม่ผิดระเบียบ สตง.ท้วงติงได้
แต่เอาผิดไม่ได้ สปช.ต้องเอามาทบทวน ต้องเป็นความรับผิดชอบของกระทรวงการคลัง
มาตรฐานการใช้จ่าย กสทช.ให้ที่ปรึกษาบินชั้นหนึ่งจึงให้ใช้เงินเยอะขนาดนั้น ที่พักก็ top หมด
ในอนาคตองค์กรอิสระที่ต้องดำเนินการใดๆ กระทรวงการคลังต้องคุมยอดให้อยู่ในมาตรฐาน
เดียวกัน ตามที่ท่านว่านักการเมืองแปรญัตติงบประมาณ ตามกฎหมายเขาไม่สามารถแปรญัตติได้ การประชุมกลุ่มย่อยที่ 4
แต่วิธีการที่ทำ คือมีการตัดงบไปที่กรมการส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่นแล้วจัดสรรจาก