Page 288 - kpi16607
P. 288
ดุลอำนาจ ในการเมืองการปกครองไทย
4 การกำกับดูแลโดยสังคม
การที่จะให้ภาคประชาสังคมกำกับดูแลสื่อมวลชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ต้องส่งเสริมการรู้เท่าทันสื่อให้แก่ประชาชน ซึ่งที่ผ่านมาเครือข่ายภาคประชา
สังคมไม่ค่อยมีการเคลื่อนไหวการกำกับดูแลและควบคุมสื่อมวลชนมากนัก เพิ่งจะ
มีในระยะหลัง ๆ ที่มีการจัดตั้งองค์กรต่าง ๆ ขึ้นมา เช่น กลุ่มผู้ปกครอง องค์การ
ต่อต้านคอร์รัปชั่น องค์กรคุ้มครองผู้บริโภค ทำให้มีการเคลื่อนไหวเรียกร้องต่อ
สื่อมวลชนที่เสนอข่าวหรือเรื่องราวที่มีผลกระทบต่อสังคมและผู้บริโภคมากขึ้น
อาทิ กรณีการล้อเลียนผู้ป่วยออทิสติกในรายการเรื่องเล่าเช้านี้ ทางสถานีโทรทัศน์
ไทยทีวีสีช่อง 3, การประท้วงกรณีการงดออกอากาศละครเรื่อง “เหนือเมฆ” ทาง
สถานีโทรทัศน์ช่องเดียวกัน
เป็นที่น่าสังเกต การเคลื่อนไหวเรียกร้องของภาคประชาสังคมในแต่ละกรณี
นั้น มีการใช้เครือข่ายสื่อสังคมออนไลน์ (social media)เป็นเครื่องมือสำคัญ
2 0 ซึ่งสามารถสร้างกระแสให้เกิดการตื่นตัวขึ้นในสังคม จนสื่อกระแสหลักนำไปเสนอ
เป็นข่าวอีกต่อหนึ่ง
อย่างไรก็ตามการกำกับดูแลสื่อมวลชนให้ได้ผลอย่างแท้จริง คงไม่สามารถ
ใช้กลไกใดกลไกหนึ่งเป็นเอกเทศ แต่ต้องอาศัยกลไกทั้งสามส่วนผสมผสานกัน
อย่างเหมาะสม
ตัวอย่างที่เห็นชัดคือ มีกฎหมายหลายฉบับที่ไม่เคยมีการบังคับใช้กับ
สื่อมวลชนเลย ทั้งๆที่สื่อมวลชนกระทำความผิดชัดแจ้ง เช่น กฎหมายเกี่ยวกับ
การคุ้มครองเด็ก แต่ไม่เคยมีการดำเนินคดีกับสื่อมวลชนที่นำเสนอข่าวและภาพ
ละเมิดเด็กและเยาวชนเลย
ถ้าภาคประชาสังคมเห็นว่า สื่อมวลชนฝ่าฝืนกฎหมายเกี่ยวกับการคุ้มครอง
เด็ก แม้มีการท้วงติงตักเตือนแล้ว ยังคงนำเสนอภาพและข่าวละเมิดเด็กและ
เยาวชนอยู่เป็นนิจ ก็สามารถไปกล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีกับ
สื่อมวลชนนั้นได้ ซึ่งภาคประชาสังคมต้องมีความรู้ด้านกฎหมายและเข้าใจด้าน
สิทธิเด็กด้วย และต้องช่วยให้ความรู้แก่ประชาชนในด้านนี้เพื่อช่วยกันในการกำกับ
ดูแลสื่อ
สถาบันพระปกเกล้า