Page 37 - kpi15695
P. 37
คํ า พิ พ า ก ษ า น่ า รู้
ค ดี ป ก ค ร อ ง ข อ ง อ ง ค์ ก ร ป ก ค ร อ ง ส่ ว น ท้ อ ง ถิ่ น
๓.๔. ให้รื้อถอนฉางข้าวของหมู่บ้าน
ให้รื้อถอนฉางข้าวของหมู่บ้าน
ผู้ใหญ่บ้านและผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านเรียกประชุมชาวบ้าน หมู่ ๗
เกี่ยวกับการรื้อถอนฉางข้าวตามโครงการอีสานเขียวเพื่อสร้างศาลา
เอนกประสงค์ขึ้นทดแทนตามโครงการ SML โดยใช้ไม้ที่ได้จากการ
รื้อถอนฉางข้าว นายสักท้วงในที่ประชุมไม่เห็นด้วยโดยเห็นว่า การที่
นายก อบต. วัดธาตุที่มีคำสั่งให้รื้อถอนฉางข้าวเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบ
ด้วยกฎหมายเพราะมิได้ปฏิบัติตามข้อ ๑๕๗ ของระเบียบกระทรวง
มหาดไทยว่าด้วยการพัสดุของหน่วยการบริหารราชการส่วนท้องถิ่น
พ.ศ. ๒๕๓๕ แต่ในที่สุดมีการรื้อถอนฉางข้าวและสร้างศาลาเอนก-
ประสงค์ นายสักจึงได้ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองขอให้ศาลพิพากษาระงับ
การก่อสร้างศาลาเอนกประสงค์ และให้ก่อสร้างฉางข้าวขึ้นใหม่ในที่เดิม
ศาลปกครองชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับคำฟ้องไว้พิจารณาเพราะเห็นว่า อาคาร
ฉางข้าวเป็นสิ่งก่อสร้างหรือทรัพย์สินของทางราชการ นายสักผู้ฟ้องคดี
ซึ่งเป็นราษฎรในหมู่บ้าน จึงไม่อาจได้รับความเดือดร้อนเสียหายจาก
การที่ทรัพย์สินของทางราชการถูกรื้อถอน จึงไม่มีสิทธิฟ้องคดี
นายสักยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุดว่า ตนเสียภาษีบำรุงท้องที่
ภาษีโรงเรือนและที่ดินให้กับ อบต. และอยู่อาศัยในหมู่ที่ ๗ มาตั้งแต่เกิด
เงินงบประมาณที่ก่อสร้างฉางข้าวเป็นงบประมาณที่มาจากภาษี
ประชาชน นายสักในฐานะประชาชนย่อมเป็นผู้เสียหายโดยตรง
ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่ง ที่ ๒๔๗/๒๕๕๐ วินิจฉัยว่า การที่ อบต.
อนุญาตให้ผู้ใหญ่บ้านรื้อถอนฉางข้าว ซึ่งใช้เป็นธนาคารข้าวประจำ
หมู่บ้านตามโครงการอีสานเขียวเป็นบริการสาธารณะซึ่งทางราชการจัด
ทำเพื่อสนองตอบความต้องการของราษฎรในหมู่บ้าน แต่ธนาคารข้าว
28