Page 184 - kpi15695
P. 184
คํ า พิ พ า ก ษ า น่ า รู้
ค ดี ป ก ค ร อ ง ข อ ง อ ง ค์ ก ร ป ก ค ร อ ง ส่ ว น ท้ อ ง ถิ่ น
๑๕.๒. ทำดี แต่ต้องระวัง
ทำดี แต่ต้องระวัง
สภาองค์การบริหารส่วนตำบลเจ็ดรั้ว ได้มีมติขอความร่วมมือให้
สมาชิกสภาร่วมกันรณรงค์รักษาความสะอาดถนนและลำคลองที่อยู่ใน
เขตรับผิดชอบ นายพลเดช สมาชิกสภาได้ไปรับสารกำจัดวัชพืชจาก
องค์การบริหารส่วนตำบลไปฉีดพ่นกำจัดวัชพืช บริเวณริมถนนในเขต
พื้นที่หมู่บ้าน หลังจากการฉีดพ่นปรากฏว่า สวนองุ่นของนายสมบูรณ์
ซึ่งอยู่ห่างจากถนนประมาณ ๗.๕ เมตร ได้รับความเสียหายจำนวนมาก
จากสารจำกัดวัชพืชที่ฉีดพ่นฟุ้งกระจายมาถูกต้นองุ่นในสวน
นายสมบูรณ์ได้ตัดกิ่งองุ่นที่แสดงอาการเหี่ยวเฉา หงิกงอออกจำนวน
ทั้งสิ้น ๑,๔๑๘ ต้น จากทั้งหมดจำนวน ๒,๑๗๖ ต้น นายสมบูรณ์
เห็นว่า องค์การบริหารส่วนตำบลเจ็ดรั้วต้องชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ตน
เพราะทำให้เก็บเกี่ยวผลผลิตได้ล่าช้า ต้องเสียค่าฟื้นฟูองุ่น ค่าอาหาร
เสริม และค่าแรงงานที่ต้องจ่ายเพิ่ม จึงได้ไปยื่นฟ้องต่อศาลปกครอง
ศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาในคดีหมายเลขแดงที่ อ.๕๐๓/
๒๕๕๑ ว่า การที่นายพลเดชฉีดพ่นสารกำจัดวัชพืชระยะห่างจาก
สวนองุ่นของนายสมบูรณ์ ผู้ฟ้องคดี ประมาณ ๗.๕ เมตร และมีร่องน้ำ
กั้นอยู่ โดยขณะฉีดพ่นผู้ฉีดกับพวกอยู่เหนือลมและหันกระบอกฉีดไป
ทางสวนของนายสมบูรณ์ ผู้ฟ้องคดี ขณะเกิดเหตุมีลมพัดเอาสารเคมี
บางส่วนเข้าไปในสวนของผู้ฟ้องคดีนั้นมิใช่เหตุสุดวิสัย เพราะเป็นกรณี
ที่นายพลเดชและเจ้าหน้าที่สามารถที่จะป้องกันหรือหลีกเลี่ยงได้
การกระทำดังกล่าวเป็นการปฏิบัติหน้าที่ องค์การบริหารส่วนตำบล
เจ็ดรั้วเป็นราชการส่วนท้องถิ่นอันเป็นหน่วยงานของรัฐ จึงต้องรับ
ผิดชดใช้ค่าเสียหายอันเกิดจากการกระทำละเมิดของเจ้าหน้าที่ในการ
1