Page 167 - kpi15695
P. 167
คํ า พิ พ า ก ษ า น่ า รู้
ค ดี ป ก ค ร อ ง ข อ ง อ ง ค์ ก ร ป ก ค ร อ ง ส่ ว น ท้ อ ง ถิ่ น
จำเลยที่ ๑ ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ไม่ได้กำกับควบคุมดูแลการฝึกของ
บุตรของโจทก์ทั้งสามจนเป็นเหตุให้บุคคลดังกล่าวสูดดมก๊าซที่รั่วไหล
จากถังฝึกที่ชำรุดถึงแก่ความตาย กรณีตามคำฟ้องจึงเป็นคดีพิพาท
เกี่ยวกับการกระทำละเมิดของหน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของ
รัฐอันเกิดจากการละเลยต่อหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติ
ตามมาตรา ๙ วรรคหนึ่ง (๓) แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครอง
และวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. ๒๕๔๒ และเป็นคดีปกครองที่อยู่ใน
อำนาจพิจารณาพิพากษาหรือคำสั่งของศาลปกครอง
เมื่อศาลยุติธรรมและศาลปกครองมีความเห็นไม่ตรงกันว่า ศาลใด
จะมีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีนี้ จึงต้องส่งเรื่องให้คณะกรรมการ
วินิจฉัยชี้ขาดอำนาจหน้าที่ระหว่างศาลเป็นผู้พิจารณาคณะกรรมการฯ
ได้มีคำวินิจฉัย ที่ ๑๖/๒๕๕๒ ว่า เหตุแห่งการฟ้องคดีนี้สืบเนื่องมาจาก
โจทก์ทั้งสามกล่าวหาว่า จำเลยที่ ๑ เป็นอาจารย์โรงเรียนช่างฝีมือทหาร
สอนวิชาช่างเชื่อมโลหะมีหน้าที่ดูแลรับผิดชอบฝึกสอนนักเรียนวิชา
เชื่อมตัดโลหะใต้น้ำและดูแลรักษากุญแจเปิดปิดห้องเรียนเชื่อมตัดโลหะ
ใต้น้ำ ตลอดจนตรวจตราบำรุงรักษาเครื่องมืออุปกรณ์การเรียนการสอน
ให้อยู่ในสภาพเรียบร้อยเพื่อป้องกันอันตราย ได้มอบกุญแจห้องเรียน
เชื่อมตัดโลหะใต้น้ำให้แก่นักเรียนที่จะเข้าเรียนการเชื่อมตัดโลหะใต้น้ำ
แล้วจำเลยที่ ๑ ไม่อยู่ปฏิบัติหน้าที่เป็นเหตุให้บุตรของโจทก์ทั้งสามใช้
กุญแจเปิดห้องเรียนเข้าไปฝึกเรียนเชื่อมตัดโลหะใต้น้ำตามลำพังโดย
ไม่มีผู้ใดควบคุมดูแลและอุปกรณ์การเรียนเกิดชำรุด เป็นเหตุให้บุคคล
ทั้งสามสูดดมก๊าซที่รั่วไหลจากการฝึกจนจมน้ำในถังฝึกถึงแก่ความตาย
ลักษณะของพฤติกรรมต่างๆ ที่โจทก์ทั้งสามอ้างเป็นการกล่าวถึง
ขั้นตอนที่เป็นการปฏิบัติหน้าที่ของครูผู้สอนในการจัดการเรียนการสอน
ซึ่งการปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวตลอดจนการควบคุมดูแลนักเรียนใน
ระหว่างการเรียนการสอนนั้นเป็นอำนาจหน้าที่โดยทั่วไปของครูผู้สอน
1 8