Page 123 - kpi11530
P. 123
คำพิพากษา“ใน”คดีปกครองขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
คำพิพากษา“ใน”คดีปกครองขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
ซึ่งลักษณะเป็นกฎหมายบังคับ (ius cogen) และเป็นกฎหมายที่เกี่ยวกับ
ความสงบเรียบร้อย จึงมิอาจหลีกเลี่ยงที่จะไม่ปฏิบัติตามหรือตกลงมิให้มี
ผลบังคับหรือจะตกลงกันเป็นอย่างอื่นผิดไปจากที่กำหนดหาได้ไม่ ดังนั้น
ข้อตกลงในเรื่องอัตราค่าปรับในสัญญาจ้างขุดสระน้ำระหว่างผู้ฟ้องคดีกับ
ผู้ถูกฟ้องคดีที่ไม่เป็นไปตามบทบัญญัติในข้อ ๕๖ วรรคแรก ของระเบียบ
กระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการพัสดุขององค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ.
๒๕๓๘ ไม่ว่าผู้ฟ้องคดีซึ่งเป็นคู่สัญญาฝ่ายเอกชนจะให้ความยินยอมกับ
ข้อสัญญาดังกล่าวนั้นหรือไม่ก็ตาม ผู้ถูกฟ้องคดีซึ่งเป็นราชการส่วนท้องถิ่น
คู่สัญญาอีกฝ่ายจึงไม่มีอำนาจที่จะทำข้อตกลงเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวนี้
เกินกว่าที่กฎหมายให้อำนาจไว้ได้ ข้อตกลงเกี่ยวกับอัตราค่าปรับที่กำหนด
ในสัญญาจ้างจึงใช้บังคับไม่ได้ ผู้ฟ้องคดีจึงไม่จำต้องชำระค่าปรับเกินกว่า
อัตราร้อยละ ๐.๑๐ ของราคางานที่จ้างหรือเป็นเงินไม่เกินวันละ ๑,๓๑๘
บาท ตามที่ข้อ ๕๖ วรรคหนึ่ง ระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการพัสดุ
ขององค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ. ๒๕๓๘ กำหนด กล่าวคือ ผู้ถูกฟ้อง
คดีมีสิทธิได้รับค่าปรับไม่เกินวันละ ๑,๓๑๘ บาท เมื่อผู้ฟ้องคดีจะต้อง
ชำระค่าปรับต่อผู้ถูกฟ้องคดีเป็นเวลาจำนวน ๒๑๗ วัน ซึ่งคิดรวมเป็นเงิน
ค่าปรับ ๒๘๖,๐๐๖ บาท และเมื่อพิจารณาข้อ ๕๖ วรรคหนึ่ง ประกอบกับ
ข้อ ๖๐ ของระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการพัสดุขององค์การ
บริหารส่วนตำบล พ.ศ. ๒๕๓๘ กำหนดว่า ในกรณีที่คู่สัญญาไม่สามารถ
ปฏิบัติตามสัญญาหรือข้อตกลงได้ และจะต้องมีการปรับตามสัญญาหรือ
ข้อตกลงนั้น หากจำนวนเงินค่าปรับจะเกินร้อยละสิบของวงเงินค่าพัสดุ
หรือค่าจ้าง ให้ประธานกรรมการบริหารดำเนินการบอกเลิกสัญญาหรือ
ข้อตกลง โดยผ่านความเห็นชอบของผู้สั่งซื้อหรือสั่งจ้างก่อน เห็นได้ว่า
ระเบียบดังกล่าวมีเจตนารมณ์ที่จะให้จำนวนเงินค่าปรับสูงสุดเพียงร้อยละ
๑๐ ของวงเงินค่าจ้างตามสัญญาในกรณีที่เกิดการล่าช้าไม่สามารถจะทำ
ของที่จ้างทำให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาที่กำหนดไว้ในสัญญา โดยผู้ว่า
จ้างยังมิได้ยกเลิกสัญญา ดังนั้น เงินค่าปรับที่เหมาะสมที่ผู้ฟ้องคดีต้อง
สัญญาทางปกครอง
