Page 56 - kpiebook66012
P. 56
จึงท�าให้ผู้ให้บริการของแพลตฟอร์มมักมีอ�านาจต่อรองที่เหนือกว่าผู้ประกอบธุรกิจ
ตัวอย่างเช่น การที่แพลตฟอร์มออนไลน์อย่าง Google ที่เป็นแพลตฟอร์ม
ลักษณะ Online Search Engine ได้ตกลงธุรกรรมกับผู้ประกอบธุรกิจรายใหญ่
ท�าให้เมื่อมีการค้นหาหรือสืบค้นข้อมูลจากผู้บริโภคผู้ประกอบธุรกิจรายนั้นจะขึ้นมา
เป็นอันดับแรกหรือที่เรียกว่า "การเรียงล�าดับผลการค้นหา (Search Ranking)"
แม้ว่าบางครั้งผู้ประกอบธุรกิจรายดังกล่าวอาจไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสิ่งที่ผู้บริโภค
ต้องการสืบค้นก็ตาม ซึ่งนั่นจึงเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบของผู้บริโภคเนื่องจาก
ผู้บริโภคควรมีสิทธิในการใช้บริการอย่างเสรี รวมทั้งยังส่งผลต่อผู้ประกอบธุรกิจ
รายอื่นอีกด้วย ด้วยสาเหตุดังกล่าวกฎระเบียบสหภาพยุโรปว่าด้วยการประกอบ
ธุรกิจแพลตฟอร์มออนไลน์ (EU Regulation on Platform-to business relation
หรือ P2B Regulation) จึงเป็นกฎหมายระเบียบเพื่อจัดการกับสถานการณ์
ความไม่สมดุลของอ�านาจต่อรองของแพลตฟอร์มออนไลน์กับผู้ประกอบธุรกิจ
โดยการควบคุมธุรกิจแพลตฟอร์มและคุ้มครองผู้บริโภค และก�าหนดแนวทาง
ปฏิบัติสร้างกฎเกณฑ์ให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจ เพื่อจัดการกับปัญหาที่อาจเกิดขึ้น
ในระบบเศรษฐกิจแพลตฟอร์มออนไลน์หรือปัญหาที่ขัดต่อความสุจริตและ
ข้อตกลงที่เป็นธรรม
โดยขอบอ�านาจของกฎหมายนี้บังคับใช้กับทุกแพลตฟอร์มออนไลน์
ไม่ว่าจะเป็นแพลตฟอร์มเครื่องมือการค้นหาออนไลน์ที่ให้บริการกับผู้ประกอบธุรกิจ
ซึ่งไม่ว่าแพลตฟอร์มจะมีสถานที่ตั้งอยู่ที่ใด แต่หากมีการให้บริการแก่ผู้ประกอบธุรกิจ
ภายในสหภาพยุโรปผู้ให้บริการก็มีภาระหน้าที่ที่จะต้องปฏิบัติตามกฎหมายนี้
และไม่ว่าผู้ประกอบธุรกิจจะมีสถานที่ตั้งท�าการหลักอยู่นอกสหภาพยุโรปก็ตาม
แต่หากผู้ประกอบธุรกิจดังกล่าวมีการให้สินค้าหรือบริการซึ่งให้บริการภายใต้
สหภาพยุโรปก็จ�าเป็นที่ต้องผูกพันตามกฎหมายนี้เช่นกัน เช่น เว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ
เว็บไซต์เปรียบเทียบราคา และเครื่องมือค้นหาออนไลน์ ผู้ให้บริการตัวกลาง
ออนไลน์ทั้งหมด Amazon, Google, Facebook เป็นต้น อย่างไรก็ดีระเบียบนี้
ไม่ใช้บังคับกับบริการช�าระเงินออนไลน์หรือการโฆษณาออนไลน์ที่ไม่ได้จัดท�าขึ้น
โดยมีจุดประสงค์เพื่ออ�านวยความสะดวกในการท�าธุรกรรมโดยตรงและไม่เกี่ยวข้อง
กับความสัมพันธ์ตามสัญญากับผู้บริโภค
56 การควบคุมธุรกิจบริการแพลตฟอร์มดิจิทัล