Page 159 - kpiebook66001
P. 159

การประชุมวิชาการ   1 1
                                                                                   สถาบันพระปกเกล้า ครั้งที่ 24
                                                                                    ความท้าทายของความมั่นคงใหม่กับประชาธิปไตย


                  บทนำ

                       อากาศเป็นสิ่งจำเป็นในการดำรงชีวิต แต่มลพิษทางอากาศเป็นภัยคุกคามรูปแบบใหม่ต่อ
                  ชีวิตมนุษย์ และไม่สามารถแยกออกจากการเมืองได้ รัฐบาลมีบทบาทสำคัญในรับมือกับ

                  ภัยคุกคามนี้ ในการพิจารณาข้อถกเถียงสำคัญหรือโต้แย้งทางการเมือง (Political argument)
                  ที่เกี่ยวกับ “สิ่งแวดล้อม” แนวคิดแบบเสรีนิยมประชาธิปไตยมักพิจารณาภัยคุกคามด้าน
                  สิ่งแวดล้อมเป็นประเด็นเชิงพื้นที่ซึ่งต้องคำนึงถึงระดับการเมืองที่หลากหลายตั้งแต่ท้องถิ่น
                  ไปจนถึงระดับโลก แต่เมื่อมองในลักษณะเชิงพื้นที่เช่นนี้ทำให้นักสิ่งแวดล้อมในโลกเสรีนิยม

                  ประชาธิปไตยมักถูกมองว่าเป็นเพียงตัวแทนของกลุ่มผลประโยชน์หรือระบบพหุสังคม
                  ที่มีส่วนร่วมในการกำหนดนโยบายในการเมืองแบบประชาธิปไตยเท่านั้น (Dryzek, Honig, &
                  Phillips, 2009)


                       ในทางกลับกัน การรับมือกับวิกฤติสิ่งแวดล้อมต้องอาศัยนักปกครองที่มีความรู้เฉพาะทาง
                  เช่น ความรู้วิทยาศาสตร์ที่มักไม่เปิดพื้นที่ให้แก่ข้อสงสัยหรือข้อถกเถียง หรืออาจไปไกลถึงขั้น
                  เรียกร้องระบอบการปกครองแบบเผด็จการ เพราะวิกฤติสิ่งแวดล้อมเกี่ยวข้องกับความเป็น
                  ความตายของมนุษย์ จึงต้องการรับมืออย่างเร่งด่วนและเป็นหนึ่งเดียว มีข้อสังเกตว่ารัฐ-ชาติ
                  ที่เน้นการปกครองแบบรวมศูนย์อำนาจรับมือกับความท้าทายรูปแบบใหม่ได้ประสบความสำเร็จ

                  “เร็วกว่า” ประเทศที่เป็นประชาธิปไตย เพราะความแตกต่างอันหลากหลาย การรับฟัง
                  ความเห็นจากประชาชน และกระบวนการตรวจสอบและถ่วงดุลอำนาจต้องอาศัยกระบวนการ
                  ทางการเมืองอันซับซ้อนและใช้เวลายาวนานกว่ารัฐประชาธิปไตยจะเริ่มรับมือ ปัญหา

                  สิ่งแวดล้อม เหล่านั้นได้ลุกลามและแก้ไขยากขึ้นแล้ว (Vincent, 2013)

                       มลพิษทางอากาศส่งผลกระทบสำคัญต่อระบบนิเวศ ทัศนวิสัย ชั้นบรรยากาศ
                  การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และสาธารณสุขซึ่งบั่นทอนสุขภาพของประชาชนโดยตรง
                  (Zhu et al., 2018) นับตั้งแต่ในปี 1997 สหรัฐอเมริกาเป็นผู้นำในการกำหนดมาตรฐาน

                  คุณภาพอากาศสิ่งแวดล้อมและกำหนดความเข้มข้นสูงสุดของ PM2.5 ต่อมาประเทศอื่น ๆ
                  และองค์กรระหว่างประเทศพยายามกำหนดความเข้มข้นของ PM2.5 แต่เนื่องจากแต่ละ
                  ประเทศมีบริบทสังคมเมือง สภาพเศรษฐกิจสังคม ความพร้อมทางเทคโนโลยีและการเงิน
                  และลักษณะนิสัยของประชาชนที่แตกต่างกัน ทำให้มาตรฐาน PM2.5 ที่บังคับใช้แตกต่างกัน
                  โดยประเทศที่พัฒนาแล้วจะกำหนดค่ามาตรฐานของ PM2.5 ไว้อย่างเข้มงวด คือ

                  12 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (µg/m ) ขณะที่ประเทศกำลังพัฒนาจะกำหนดมาตรฐาน
                                                      3
                  ไว้ต่ำเพราะยังต้องอาศัยการพัฒนาทางเศรษฐกิจและพึ่งพิงอุตสาหกรรมหนัก คือ 50 µg/m
                                                                                                   3
                  (ศิริมา ปัญญาเมธีกุล & ธงชัย พรรณสวัสดิ์, 2562)


                       องค์การอนามัยโลก (World Health Organization: WHO) เผยว่าประชากรโลก                  การประชุมกลุ่มย่อยที่ 4
                  ร้อยละ 90 ได้สูดอากาศที่ปนเปื้อนมลพิษเข้าไปทุกวัน โดยเฉพาะประชากรที่อาศัยอยู่ใน
   154   155   156   157   158   159   160   161   162   163   164