Page 140 - kpiebook65056
P. 140

138          ผู้  นร   รสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว                  139



 “ร่างพระราชบัญญัตินี้เดิมทีเดียว ได้ท�ากันมาเมื่อ ายหลัง  ครั้นร่างพระราชบั  ัติว่าด้วยระเบียบราชการบริหารฯ ผ่านสภา
 เปลี่ยนแปลงการปกครอง วันที่    มิถุนายนพ.ศ.      แต่ต่อมา  แล้ว หลวงประดิษฐ์ฯ จ งเป นผู้เสนอร่างพระราชบั  ัติปรับปรุง กระทรวง

 ได้มีพระราชบัญญัติเรียกว่าพระราชบัญญัติพระธรรมนูญราชการ  ทบวง กรม ต่อไป
 ฝ่ายพลเรือน ซึ่งได้ออกเมื่อสมัยรั บาลพระยามโน   ายหลัง    “เรื่องนี้คล้ายคลึงกับเรื่องที่แล้ว...รั บาลในป จจุบัน
 เมื่อข้าพเจ้ากลับจากฝรั่งเศส คณะรั มนตรีจึงได้ตั้งคณะกรรมการ  มีความเห็นพ้องกันว่าควรมีเพียง   กระทรวง และมีทบวงอีก

 ขึ้นคณะหนึ่ง ”               แห่ง คือ ส�านักนายกรั มนตรี...รั บาลนี้ได้ตั้งกระทรวงใหม่
                            ขึ้นอีกกระทรวงหนึ่งคือกระทรวงวัง กระทรวงวังนี้แต่เดิมเรียกว่า
 ท่านยืนยันว่าร่างกฎหมายฉบับนี้ได้ทำามานาน หากแต่ยังไม่ลุล่วงไป    ศาลาว่าการพระราชวัง ซึ่งสมัยพระยามโน  เป็นนายกรั มนตรี
 ท่านกลับจากประเทศ รั่งเศสแล้วจ งได้มาทำาต่อ และท่านก็ได้อธิบายถ ง  ได้แยกกระทรวงนี้ออกจากกระทรวง ทบวงการเมือง และตั้ง

 เนื้อหาสาระของร่างกฎหมาย   ผู้ส�าเร็จราชการพระราชวังขึ้นเป็นผู้บังคับบัญชา...ก่อนที่รั บาล

 “การต่อไปเราจะจัดรูปราชการให้เข้าตามลักษณะการ  จะได้โอนศาลาว่าการพระราชวังมารวมอยู่ในความรับผิดชอบ

 ปกครอง ดั่งที่เขานิยมใช้กันในประเทศต่าง ๆ คือเราจัดเป็น   ของรั บาลด้วยนั้นรั บาลได้มอบให้เจ้าคุณนิติศาสตร์ไพศาลและ
 ส่วนกลาง เป็น ูมิ าค และเป็นท้องถิ่น ส�าหรับส่วนกลางคือ   ท่านวรรณ  ไปเฝ้าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเพื่อกราบบังคมทูล
 คณะรั มนตรีรับมอบหมาย เช่น มีกระทรวง ทบวง และ กรม    ว่า รั บาลมีความเห็นดังกล่าวแล้วและประสงค์เพื่อจะให้มีรั มนตรี

 ส่วน ูมิ าคหมายถึงจะส่งข้าราชการไปประจ�า แต่เดิมมีมณ ล   เป็นผู้รับผิดชอบและมีหน้าที่บังคับบัญชาราชการวังเหมือนดัง
 จังหวัด อ�าเ อ การมีมณ ลนั้นท�าให้การงานช้า ส�าหรับเรื่อง  กระทรวงอื่น ๆ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้มีพระกระแส

 การบริหารส่วนท้องถิ่นนั้นหมายความถึงเรื่องเทศบาลซึ่งรั บาล  รับสั่งว่าเป็นความคิดที่ส่งเห็นพ้องด้วย และทรงเห็นว่าควรให้
 ได้แถลงเป็นนโยบายไว้แล้วจึงควรยกอ�านาจบางอย่างให้ท้องถิ่น  ศาลาว่าการพระราชวังเป็นกระทรวงโดยให้มีรั มนตรีว่าการ
 เขาท�า เพราะ ะนั้นจึงแบ่งเป็น   ประเ ทคือ  กระทรวงเป็นผู้บังคับบัญชารับผิดชอบ ”

     ราชการบริหารส่วนกลาง
     ราชการบริหารส่วน ูมิ าค  สภาฯ พิจารณาแล้วมีมติรับหลักการ และพิจารณาต่อไปให้ประกาศ

     ราชการบริหารส่วนท้องถิ่น  ใช้เป นกฎหมายได้ กฎหมายสำาคั เกี่ยวกับการบริหารแผ่นดินทั้ง 2 ฉบับนี้
                   พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงลงพระปรมาภิไธย และมีผลบังคับใช้
 การท�าพระราชบัญญัตินี้ขึ้น ก็เพื่อต้องการจัดรูปงาน   พร้อมกันในวันที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2476

 ให้เข้าลักษณะการปกครองอย่างรั ธรรมนูญ และเพื่อจะให้
 การบริหารราชการแผ่นดินรวบรัด และเร็วยิ่งขึ้น ”
   135   136   137   138   139   140   141   142   143   144   145