Page 139 - kpiebook65056
P. 139
138 ผู้ นร รสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว 139
“ร่างพระราชบัญญัตินี้เดิมทีเดียว ได้ท�ากันมาเมื่อ ายหลัง ครั้นร่างพระราชบั ัติว่าด้วยระเบียบราชการบริหารฯ ผ่านสภา
เปลี่ยนแปลงการปกครอง วันที่ มิถุนายนพ.ศ. แต่ต่อมา แล้ว หลวงประดิษฐ์ฯ จ งเป นผู้เสนอร่างพระราชบั ัติปรับปรุง กระทรวง
ได้มีพระราชบัญญัติเรียกว่าพระราชบัญญัติพระธรรมนูญราชการ ทบวง กรม ต่อไป
ฝ่ายพลเรือน ซึ่งได้ออกเมื่อสมัยรั บาลพระยามโน ายหลัง “เรื่องนี้คล้ายคลึงกับเรื่องที่แล้ว...รั บาลในป จจุบัน
เมื่อข้าพเจ้ากลับจากฝรั่งเศส คณะรั มนตรีจึงได้ตั้งคณะกรรมการ มีความเห็นพ้องกันว่าควรมีเพียง กระทรวง และมีทบวงอีก
ขึ้นคณะหนึ่ง ” แห่ง คือ ส�านักนายกรั มนตรี...รั บาลนี้ได้ตั้งกระทรวงใหม่
ขึ้นอีกกระทรวงหนึ่งคือกระทรวงวัง กระทรวงวังนี้แต่เดิมเรียกว่า
ท่านยืนยันว่าร่างกฎหมายฉบับนี้ได้ทำามานาน หากแต่ยังไม่ลุล่วงไป ศาลาว่าการพระราชวัง ซึ่งสมัยพระยามโน เป็นนายกรั มนตรี
ท่านกลับจากประเทศ รั่งเศสแล้วจ งได้มาทำาต่อ และท่านก็ได้อธิบายถ ง ได้แยกกระทรวงนี้ออกจากกระทรวง ทบวงการเมือง และตั้ง
เนื้อหาสาระของร่างกฎหมาย ผู้ส�าเร็จราชการพระราชวังขึ้นเป็นผู้บังคับบัญชา...ก่อนที่รั บาล
“การต่อไปเราจะจัดรูปราชการให้เข้าตามลักษณะการ จะได้โอนศาลาว่าการพระราชวังมารวมอยู่ในความรับผิดชอบ
ปกครอง ดั่งที่เขานิยมใช้กันในประเทศต่าง ๆ คือเราจัดเป็น ของรั บาลด้วยนั้นรั บาลได้มอบให้เจ้าคุณนิติศาสตร์ไพศาลและ
ส่วนกลาง เป็น ูมิ าค และเป็นท้องถิ่น ส�าหรับส่วนกลางคือ ท่านวรรณ ไปเฝ้าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเพื่อกราบบังคมทูล
คณะรั มนตรีรับมอบหมาย เช่น มีกระทรวง ทบวง และ กรม ว่า รั บาลมีความเห็นดังกล่าวแล้วและประสงค์เพื่อจะให้มีรั มนตรี
ส่วน ูมิ าคหมายถึงจะส่งข้าราชการไปประจ�า แต่เดิมมีมณ ล เป็นผู้รับผิดชอบและมีหน้าที่บังคับบัญชาราชการวังเหมือนดัง
จังหวัด อ�าเ อ การมีมณ ลนั้นท�าให้การงานช้า ส�าหรับเรื่อง กระทรวงอื่น ๆ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้มีพระกระแส
การบริหารส่วนท้องถิ่นนั้นหมายความถึงเรื่องเทศบาลซึ่งรั บาล รับสั่งว่าเป็นความคิดที่ส่งเห็นพ้องด้วย และทรงเห็นว่าควรให้
ได้แถลงเป็นนโยบายไว้แล้วจึงควรยกอ�านาจบางอย่างให้ท้องถิ่น ศาลาว่าการพระราชวังเป็นกระทรวงโดยให้มีรั มนตรีว่าการ
เขาท�า เพราะ ะนั้นจึงแบ่งเป็น ประเ ทคือ กระทรวงเป็นผู้บังคับบัญชารับผิดชอบ ”
ราชการบริหารส่วนกลาง
ราชการบริหารส่วน ูมิ าค สภาฯ พิจารณาแล้วมีมติรับหลักการ และพิจารณาต่อไปให้ประกาศ
ราชการบริหารส่วนท้องถิ่น ใช้เป นกฎหมายได้ กฎหมายสำาคั เกี่ยวกับการบริหารแผ่นดินทั้ง 2 ฉบับนี้
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงลงพระปรมาภิไธย และมีผลบังคับใช้
การท�าพระราชบัญญัตินี้ขึ้น ก็เพื่อต้องการจัดรูปงาน พร้อมกันในวันที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2476
ให้เข้าลักษณะการปกครองอย่างรั ธรรมนูญ และเพื่อจะให้
การบริหารราชการแผ่นดินรวบรัด และเร็วยิ่งขึ้น ”