Page 136 - kpiebook63031
P. 136
135
บทวิเครำะห์กำรเปลี่ยนแปลงขั้วอ�ำนำจทำงกำรเมือง
กำรย้ำยพรรคกำรเมือง และผลกำรเลือกตั้งที่เกิดขึ้น
สรุปได้ว่า การเลือกตั้งวันที่ 24 มีนาคม 2562 จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งแบ่งเขตเลือกตั้งออกเป็น
10 เขต ผู้สมัครที่ย้ายพรรคการเมือง หรือเปลี่ยนแปลงขั้วอำานาจทางการเมืองจากพรรคเพื่อไทย
ไปสังกัดพรรคพลังประชารัฐไม่ได้รับการเลือกตั้งเข้ามาแม้แต่คนเดียว โดยเฉพาะเขตเลือกตั้งที่ 3
(อำาเภอวารินชำาราบ อำาเภอนาเยีย) เป็นเขตที่เป็นที่ตั้งของมณฑลทหารบกที่ 22 ค่ายสรรพสิทธิประสงค์
เป็นพื้นที่ที่มีการแข่งขันกันอย่างรุนแรง หลายฝ่ายมองว่าเป็นการแข่งขันที่สูสี เป็นพื้นที่ที่พรรคพลังประชารัฐ
จะแพ้การเลือกตั้งไม่ได้ โดยพรรคพลังประชารัฐ นำาโดย นายอุตตม สาวนายน นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล นายสุพล ฟองงาม และผู้สมัคร ส.ส.ในเขตจังหวัด
อุบลราชธานีทั้งหมด ได้มาเปิดปราศรัยใหญ่ที่มหาวิทยาลัยอุบลราชธานีซึ่งอยู่ในพื้นที่เขตเลือกตั้งที่ 3
จำานวน 2 รอบ คือ วันที่ 2 มีนาคม และ 4 มีนาคม 2562 (ณ อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ) แต่กลับ
แพ้การเลือกตั้งผู้สมัครหน้าใหม่ คือ นางสาวกิตติ์ธัญญา วาจาดี พรรคเพื่อไทย ที่ได้ 44,251 คะแนน
(อันดับสอง คือ นางสาวโยธากาญจน์ ฟองงาม พรรคพลังประชารัฐ (บุตรสาวนายสุพล ฟองงาม
อดีต ส.ส.อุบลราชธานี และอดีตเลขาธิการพรรคเพื่อไทย) ได้ 24,378 คะแนน
ทั้งนี้ ในการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2562 ข้อมูลจากการสัมภาษณ์ ส.ส.เกรียง กัลป์ตินันท์
(สัมภาษณ์, 6 กุมภาพันธ์ 2562) รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้สะท้อนทัศนะว่า ตอนมีกระแส “ดูด”
มีคนมาติดต่อทาบทามให้กลุ่มพรรคการเมือง โดย “ดูด” สมาชิกพรรคเพื่อไทยให้ไปสังกัดพรรคฝ่ายตรง
กันข้าม ดังบทสัมภาษณ์ตอนหนึ่งว่า
“ตอนมีกระแสดูด มีคนมำดูดพรรคเพื่อไทย ก็ไม่มีผลนะครับ เรำไม่ไปสะอย่ำง แต่ผมเป็น
รำยแรกที่เขำมำทำบทำม คือเมื่อก่อนเขำให้ คุณ ส. เพื่อนของคุณสมคิด มำทำบทำมผมสัก 5 เดือน
ที่แล้ว (ปลำยปี 2561) ผมก็ถำมเขำตรงๆ ว่ำ ส.ส.อุบลฯ มีเยอะแยะ คุณท�ำไมต้องมำทำบทำมผม
ท�ำไมไม่ทำบทำมคนอื่น เขำบอกว่ำทำบทำมผมถ้ำได้มันได้หลำยคน ผมก็เลย... ตอนแรก ผมก็บอกเขำ
ชัดเจน ผมก็บอกเขำว่ำผมนี้เลือกตั้งมำ 30 กว่ำปี ยืนอยู่ฝั่งประชำธิปไตยมำโดยตลอด แล้วอยู่ๆ จะให้
ผมไปอยู่ฝั่งนู้นมันไม่ได้ เพรำะผมตอนนี้ก็อำยุ 60 กว่ำแล้ว ถ้ำผมไปยืนอยู่อีกฝั่งหนึ่ง เพื่อนผมที่เคย
สนิทกันมันจะคุยกับผมหรือเปล่ำ ผมไม่เสี่ยงที่จะไปมีพวกใหม่ เพรำะว่ำผมไม่รู้ว่ำพวกใหม่เขำจะคิดยังไง
กับผม ผมว่ำเอำอย่ำงนี้แล้วกัน ถ้ำจะให้ผมไปยืนอยู่ฝั่งนู้น ผมว่ำผมเลิกดีกว่ำ เขำก็เลยว่ำ ส.ส.เอำไว้
ตัดสินใจอีกทีได้ไหม ผมก็เลยบอกเขำว่ำเอำอย่ำงนี้แล้วกัน ท่ำนไม่ต้องบอกเขำว่ำมำคุยกับผม ผมขี้เกียจ
ไปทะเลำะกับพวกนั้นอีก ถ้ำท่ำนไปบอกเขำว่ำ ท่ำนมำคุยกับผม ถ้ำเขำมำถำมผม ผมจะบอกเขำว่ำ
ท่ำนไม่ได้มำนะ ผมก็บอกเขำตรงๆ คือมันเป็นไปไม่ได้ไง เรำอำยุ 60 กว่ำละ อย่ำว่ำแต่ไปคุยกับพวก
ผู้แทนด้วยกันเลย คือแค่คุยกับชำวบ้ำนนี้ ชำวบ้ำนเขำจะคุยกับผมรึเปล่ำก็ไม่รู้” (เกรียง กัลป์ตินันท์,
สัมภาษณ์, 6 กุมภาพันธ์ 2562)