Page 38 - kpiebook63020
P. 38
ก่อนหน้าปี พ.ศ. 2562 ระบบกำจัดขยะของเทศบาลเมืองร้อยเอ็ดยังไม่เป็นระบบและ
ไม่ตรงตามหลักวิชาการนัก เนื่องจากเทศบาลมีงบประมาณในส่วนนี้น้อย จึงทำได้เพียงการนำ
ขยะไปถมทับรวมกันจนเต็มพื้นที่ทิ้งขยะ เมื่อขยะล้นพื้นที่จึงจ้างเหมาเอกชนมาขนไปทิ้งที่อื่น
ซึ่งบางครั้งขยะที่กองไว้ก็ล้นเข้าสู่ถนนส่งผลต่อการสัญจรทางถนนของประชาชนด้วย
จุดเปลี่ยนสำคัญเกิดขึ้นในปี พ.ศ. 2557 เมื่อเทศบาลเมืองร้อยเอ็ดได้รับงบประมาณ
จากแผนปฏิบัติการ “ประเทศไทยไร้ขยะ” ตามแนวทางประชารัฐ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ
นโยบายด้านการจัดการขยะมูลฝอยและของเสียอันตรายของรัฐบาลพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา
สมัยที่ 1 (พ.ศ. 2557-2562) ทำให้เทศบาลสามารถยกระดับการบริหารจัดการขยะ
ปลายทางและขยะตกค้างได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ผ่านการดำเนินกิจกรรมสองกิจกรรม
ได้แก่ กิจกรรมจัดการขยะมูลฝอยตกค้าง (ขยะเก่า) และกิจกรรมจัดการขยะใหม่
สำหรับกิจกรรมจัดการขยะมูลฝอยตกค้าง คือกิจกรรมการจัดการพื้นที่ทิ้งขยะรวมของ
เทศบาลซึ่งอยู่ในบริเวณเดียวกับสถานีกำจัดขยะ ปรับภูมิทัศน์พื้นที่ทิ้งขยะให้สวยงาม
ถูกสุขลักษณะ และป้องกันการนำขยะจากภายนอกมาทิ้งหน้าสถานที่ โดยมี 2 ขั้นตอน
สำคัญ ขั้นตอนแรกคือการขุดดินฝังกลบขยะตกค้างที่มีอยู่เดิมตามหลักวิชาการ ใช้เวลา
ดำเนินการ 6 เดือน (กันยายน 2562 – เมษายน 2563) กำจัดขยะตกค้างได้ 46,800 ต้น
และขั้นตอนที่สองคือการปรับภูมิทัศน์ด้วยการเกลี่ยรูปทรงของกองขยะตกค้างประมาณ
123.2 แสนตันให้เป็นเนิน แล้วถมดินกับหินรวม 4 ชั้น และปลูกหญ้าคลุมไว้ชั้นบนสุดเพื่อ
ปรับภูมิทัศน์ให้สวยงาม โดยเว้นพื้นที่ส่วนหนึ่งไว้รองรับขยะที่รอการกำจัด นอกจากนั้นยังได้
ทำถนนลูกรังรอบบริเวณทิ้งขยะรวม และติดตั้งกล้องวงจรปิด 16 ตัวเพื่อป้องกันการลักลอบ
นำขยะจากภายนอกมาทิ้งด้วย ขั้นตอนนี้ดำเนินการเมื่อเดือนสิงหาคม 2562 ถึงเมษายน
2563 กิจกรรมนี้ทำให้เทศบาลเมืองร้อยเอ็ดกำจัดขยะตกค้างได้ทั้งหมดและทำให้เมือง
มีภูมิทัศน์ที่สวยงาม ป้องกันสภาวะขยะล้นเกินมารบกวนพื้นที่สาธารณะของเมือง
ส่วนกิจกรรมจัดการขยะใหม่ คือกิจกรรมการจัดการขยะปลายทางที่ลำเลียงมาจาก
แหล่งขยะต้นทางรายวัน ณ สถานีกำจัดขยะของเทศบาลที่ได้รับการพัฒนาทางเทคโนโลยี
ให้จัดการขยะได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นและสามารถแปรรูปขยะให้กลายเป็นรายได้ของ
เทศบาลอีกด้วย โดยในปี พ.ศ. 2559 เทศบาลเมืองร้อยเอ็ดได้จัดสร้างระบบกำจัดขยะ
ที่สามารถแปรรูปขยะให้กลายเป็นเชื้อเพลง refuse-derived fuel (RDF) และปุ๋ยอินทรีย์
ด้วยงบประมาณ 187.6 ล้านบาทที่ได้รับจากกองทุนสิ่งแวดล้อม สำนักนโยบายและ
แผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
รางวัลพระปกเกล้า 63