Page 468 - kpiebook63010
P. 468
467
เหตุการณ์สามเหตุการณ์ที่มีนัยยะส�าคัญต่อสาธารณะได้แก่
เหตุการณ์การชมฟุตบอลโลก นัด อังกฤษ กับ โครเอเชีย ของทูลกระหม่อมฯ เมื่อ 22 กรกฎาคม 2561
ซึ่งเป็นนัดเดียวกับที่ พ.ต.ท.ทักษิณและนางสาวยิ่งลักษณ์ ไปชม แม้ว่าสื่อกระแสหลักจะไม่ได้ลงข่าวในเรื่องนี้ว่ามีการ
พบกันระหว่างทูลกระหม่อมกับ พ.ต.ท.ทักษิณและนางสาวยิ่งลักษณ์ โดนลงข่าวเรื่องเดียวกันคือดูฟุตบอลแมทช์
เดียวกัน แต่ไม่ได้ลงข่าวว่าอยู่ด้วยกัน) แต่ในสื่อโซเชียลก็มีภาพและวีดีโอคลิปที่มีทั้งสามท่านอยู่ในสถานที่ด้วยกัน
เหตุการณ์การเสนอชื่อทูลกระหม่อมฯ เป็นผู้ที่จะเสนอเป็นนายกรัฐมนตรีในนามของพรรคไทยรักษาชาติ
และการที่ทูลกระหม่อมฯ ทรงตอบข้อความอินสตราแกรมต่อประชาชน (รวมทั้ง นางสาวแพทองธาร หรืออุ๊งอิ๊ง
ชินวัตร บุตรสาวคนสุดท้องของ พ.ต.ท.ทักษิณ) เมื่อ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562 (ข่าวสด, 2562ง)
เหตุการณ์ที่ทูลกระหม่อมฯ เสด็จร่วมงานมงคลสมรสของนางสาวแพทองธาร หรืออุ๊งอิ๊ง ชินวัตร
บุตรสาวคนสุดท้องของ พ.ต.ท.ทักษิณ และนายปิฎก สุขสวัสดิ์ ที่โรงแรมโรสวูด ในฮ่องกง เมื่อค�่าวันที่ 23 กุมภาพันธ์
พ.ศ. 2562 โดย พ.ต.ท.ทักษิณ นางสาวยิ่งลักษณ์ และคณะกรรมการบริหารพรรคไทยรักษาชาติ (ที่ถูกยุบพรรค
ไปแล้ว) ถวายการต้อนรับ โดยมีภาพเหตุการณ์ดังกล่าวที่แสดงออกถึงความสนิทสนมระหว่างทูลกระหม่อมฯ
กับ พ.ต.ท.ทักษิณ เผยแพร่ในสาธารณะทั้งสื่อทั้งกระแสหลักและสื่อนานาชาติ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดก่อน
การเลือกตั้งเพียงหนึ่งวัน (บีบีซีไทย, 2562ข) นอกจากนั้น ทูลกระหม่อมฯ ยังมีความใกล้ชิดกับนางสาวแพทองธาร
มายาวนานดังเป็นที่รับรู้กันในสาธารณะ
ภายหลังเหตุการณ์ดังกล่าว พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อ บีบีซี ให้ความเห็นถึงผล
ของการเลือกตั้ง โดยวิพากษ์วิจารณ์ว่ามีลักษณะที่ความผิดปกติของการเลือกตั้ง และให้ความเห็นต่อสถานการณ์
ของพรรคเพื่อไทยและไทยรักษาชาติเป็นพิเศษ และยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องกับกระบวนการการเสนอชื่อ
ทูลกระหม่อม และยืนยันถึงมิตรภาพกับทูลกระหม่อมฯ แต่ในอีกด้านหนึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณก็ยังยืนยันถึงความจงรักภักดี
ต่อพระมหากษัตกษัตริย์ โดยเฉพาะเมื่อมีพระราชด�ารัสในคืนวันที่ 23 มีนาคม เวลาโดยประมาณ 22.45 น.
ส่วนตัวมองว่าก็ควรจะเป็นไปตามพระราชด�ารัส (บีบีซีไทย, 2562ก)
กล่าวโดยสรุป สถานการณ์ของพรรคเพื่อไทยในรอบนี้ สะท้อนให้เห็นว่าพรรคเพื่อไทยนั้นสูญเสียที่
นั่งเพียง 1 ที่นั่งจากสถิติในรอบที่แล้ว แต่ในระดับเขตนั้น พรรคเพื่อไทยมีทั้งเขตที่ได้กลับมาใหม่ และ เขตที่เสีย
ไป พรรคเพื่อไทยยังได้รับผลกระทบจากระบบการเลือกตั้งแบบใหม่โดยตรง เพราะระบบการเลือกตั้งแบบใหม่
มีผลท�าให้เกิดการก่อตั้งพรรคไทยรักษาชาติ และพรรคเพื่อชาติ ที่มีฐานคะแนนเสียงจากกลุ่มเดียวกัน และท�าให้
พรรคเพื่อไทยส่งผู้สมัครไม่ครบทุกเขตในกรุงเทพมหานคร เมื่อเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองกับพรรคไทยรักษาชาติ
พรรคเพื่อไทยจึงอยู่ในสถานการณ์ที่ขาดผู้สมัครโดยตรงและขาดพันธมิตรที่ใกล้ชิดแบบไทยรักษาชาติในการ
ต่อสู้ในสนามการเลือกตั้งในเขตนั้น ซึ่งหากพิจารณาในเรื่องนี้อาจจะต้องวิเคราะห์ว่ากรณีของพรรคเพื่อไทยนั้น
การได้รับเลือกตั้งถึง 9 เขตใน 22 เขตที่ส่งผู้สมัครลงในครั้งนี้ และท่ามกลางสถานการณ์ที่กลุ่มอ�านาจฝ่ายตรงข้าม
กับพรรคยึดกุมอ�านาจทางการเมืองการปกครองเอาไว้ น่าจะถือได้ว่าผลงานของพรรคเพื่อไทยในรอบนี้
ไม่ได้น้อยกว่าการได้รับที่นั่ง 10 เขตใน 33 เขตที่ส่งผู้สมัครลงในครั้งที่แล้ว