Page 445 - kpiebook63010
P. 445
444 การศึกษาความเคลื่อนไหวทางการเมืองและพฤติกรรมการเลือกตั้ง
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2562 กรุงเทพมหานคร
สถิติทั้งสองพรรคชี้ให้เห็นว่าท่ามกลางจ�านวนผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งที่เพิ่มขึ้น คือจาก 3,059,551 คน
ในปี 2554 เป็น 3,255,444 คน ในปี 2562 คะแนนทั้งของพรรคประชาธิปัตย์และพรรคเพื่อไทยกลับลดลง
ย่อมแปลว่าคะแนนของสองพรรคได้ถูกเฉลี่ยคะแนนไปสู่พรรคอื่น
และเมื่อพิจารณากฎกติกาของระบบเลือกตั้งใหม่นั้น การวิเคราะห์เฉพาะจ�านวนเก้าอี้ของแต่ละพรรค
ในเขตกรุงเทพโดยการอธิบายถึงการสูญพันธุ์ของพรรคประชาธิปัตย์ ไม่สะท้อนความเป็นจริงในเรื่องของ
คะแนนเสียงของพรรคประชาธิปัตย์ ที่ยังมีอยู่ 474,820 คะแนนถ้ารวมจากคะแนนทั้งหมดที่ได้ในรอบนี้ในเขต
กรุงเทพมหานคร ซึ่งแม้ว่าประชาธิปัตย์อาจจะไม่ได้รับเลือกตั้งในระดับเขต แต่ก็มีผลต่อการค�านวนคะแนน
บัญชีรายชื่อ (โดยเฉลี่ย จากการค�านวนที่คะแนน 71,168.5141 กับคะแนนดิบแต่ละพรรค ในกรณีของประชาธิปัตย์นั้น
จะมีตัวเลขคร่าว ๆ ของจ�านวนสมาชิกสภาแบบบัญชีรายชื่อถึง 6.72 คนจาก 150 คน) หรือถ้าค�านวนสัดส่วน
ของคะแนนเสียงประชาธิปัตย์ กับจ�านวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งของทั้งกรุงเทพมหานคร 3,255,444 คน ประชาธิปัตย์
จะมีคะแนนเป็นร้อยละ 14.58 ของกรุงเทพมหานคร
ความพ่ายแพ้ของพรรคประชาธิปัตย์ในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานครนั้นสามารถอธิบายได้เป็นสองส่วน
ได้แก่ความพ่ายแพ้ด้วยปัจจัยทางยุทธศาสตร์ด้านจุดยืนทางการเมือง และ ความพ่ายแพ้ด้วยปัจจัยด้าน
ความเป็นสถาบันของพรรค
4.3.1.1 การพ่ายแพ้ในเชิงยุทธศาสตร์ของการวางต�าแหน่งของพรรคการเมืองของตน
ในการเลือกตั้งในระดับของการแข่งขันทางจุดยืนทางการเมือง
เมื่อหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ผู้ได้รับการเสนอชื่อจากพรรคให้ด�ารงต�าแหน่งนายกรัฐมนตรีเพียงหนึ่งเดียว
ของพรรค) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ พร้อมด้วยคณะกรรมการบริหารพรรคประกาศจุดยืนทางการเมืองของพรรค
ในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้ง ณ ที่ท�าการพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อวันที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2562
ก่อนการเลือกตั้งล่วงหน้า 17 มีนาคม และ การเลือกตั้งทั่วไป 24 มีนาคม
สาระส�าคัญของการประกาศจุดยืนนั้นเป็นการขยายความความเห็นของนายอภิสิทธิ์ที่ได้เคย
ให้สัมภาษณ์ในที่อื่น ๆ มาบ้างแล้วว่าไม่เอา พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะ คสช. และ นายกรัฐมนตรี
เพราะเป็นการสืบทอดอ�านาจและจะท�าให้เป็นความขัดแย้ง โดยนายอภิสิทธิ์ยืนยันว่าเป็นการแถลงในฐานะ
หัวหน้าพรรคและเป็นไปตามอุดมการณ์ของพรรค โดยนายอภิสิทธิ์ชี้แจงว่า ประชาชนมีสามทางเลือกคือ
พรรคประชาธิปัตย์ พรรคเพื่อไทย และ พรรคพลังประชารัฐ โดยที่พรรคประชาธิปัตย์มุ่งสู่การเป็นแกนน�า
รัฐบาลไม่ใช่พรรคร่วมรัฐบาล ดังนั้นจะต้องจัดตั้งรัฐบาลบนพื้นฐานของอุดมการณ์และนโยบายและสิ่งที่แสดง
จุดยืนออกไปสองครั้งอย่างชัดเจน(ก่อนหน้านี้) ว่าต้องจัดตั้งรัฐบาลแบบไม่มีทุจริต และ ไม่สืบทอดอ�านาจ
(กรุงเทพธุรกิจ, 2562ฌ)