Page 80 - kpiebook63007
P. 80
80 การศึกษาความเคลื่อนไหวทางการเมืองและพฤติกรรมการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2562 จังหวัดกาฬสินธุ์
2562 ในจังหวัดกาฬสินธุ์นั้น ได้เห็นปรากฏการณ์เกิดขึ้นทุกรูปแบบ การปราศรัยหาเสียงในพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์
ในระหว่าง 60 วันในการหาเสียงนั้น ช่วงระยะเวลาที่มีการปราศรัยหาเสียงมากที่สุดคือ “ช่วงโค้งสุดท้าย”
กล่าวคือ ในช่วงระยะเวลา 3 สัปดาห์สุดท้ายก่อนการเลือกตั้ง การปราศรัยในพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ค่อนข้าง
คึกคัก โดยขนาดเวทีแบ่งเป็น 2 ขนาดคือ (1) เวทีระดับกลาง คือเวทีการปราศรัยที่เกิดขึ้นในพื้นที่ระดับเขต
การเลือกตั้ง ซึ่งจังหวัดกาฬสินธุ์แบ่งเป็นทั้งหมด 5 เขต หรือ จังหวัด ในเวทีระดับกลางนี้จะมีความพิเศษที่
การปราศรัยจะมีตัวแทนพรรคจากส่วนกลาง อาทิเช่นหัวหน้าพรรคการเมือง เลขาธิการพรรค กรรมการ
บริหารพรรค เป็นต้น จำานวนของผู้เข้าร่วมในการรับฟังคำาปราศรัยก็จะมากขึ้นตามความสนใจของพรรคด้วย
อย่างไรก็ตามการเกณฑ์ผู้เข้าร่วมมารับฟังการปราศรัยยังคงเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นได้ทั่วไป ซึ่งมาจาก
หัวคะแนนของแต่ละพรรคการเมืองด้วย
การเปิดเวทีปราศรัยกลาง การเปิดเวทีปราศรัยของพรรคการเมืองเกิดขึ้นทุกพรรค โดยเฉพาะ
พรรคการเมืองขนาดใหญ่ พรรคการเมืองขนาดเล็ก ซึ่งความแตกต่างของพรรคการเมืองขนาดใหญ่กับพรรคการเมือง
ขนาดเล็ก สังเกตได้จากจำานวนคนที่มารับฟังการปราศรัย เพราะพรรคการเมืองขนาดใหญ่มีสมาชิกพรรค
จำานวนมาก มีเครือข่ายในพื้นที่ และที่สำาคัญมีงบประมาณในการจัดเวทีจำานวนมากเช่นกัน ทำาให้ประชาชนที่มา
รับฟังมีจำานวนมาก ในการปราศรัยของทุกพรรคจะมีลักษณะคล้ายกัน กล่าวคือ หัวหน้าพรรค คณะกรรมการ
บริหารพรรคที่เป็นบุคคลสำาคัญได้เดินทางมาร่วมปราศรัยใหญ่ด้วย เช่นเดียวกับพรรคขนาดเล็ก ก็มีหัวหน้าพรรค
กรรมการบริหารพรรคลงในพื้นที่เพื่อมาปราศรัยเช่นกัน ในการปราศรัยส่วนใหญ่จะเน้นนำาเสนอนโยบายที่พรรค
ดำาเนินการประสบความสำาเร็จในอดีตมาหาเสียง และกล่าวถึงนโยบายใหม่ที่พรรคจะดำาเนินการต่อไปในอนาคต
ส่วนพรรคการเมืองขนาดเล็ก จะเน้นนำาเสนอแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน เช่น เรื่องเศรษฐกิจ ความเป็นอยู่
ของประชาชน เป็นหลัก
(2) เวทีปราศรัยขนาดเล็ก เป็นเวทีที่เกิดขึ้นจำานวนมากในระดับชุมชน โดยตัวผู้สมัครเองร่วมกับ
หัวคะแนนในชุมชน จำานวนของผู้เข้าร่วมก็จะมีขนาดเล็กลงตามไปด้วย การเปิดเวทีในระดับหมู่บ้านเป็นสิ่ง
จำาเป็นที่ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. ยังใช้และจำาเป็นต้องใช้ โดยผู้ที่ชนะการเลือกตั้งหรือไม่ชนะการเลือกตั้ง จำาเป็น
ต้องลงพื้นที่ในระดับหมู่บ้าน ทุกหมู่บ้านที่อยู่ในเขตการเลือกตั้ง โดยส่วนใหญ่จะจัดเวทีในเวลาตอนเย็นหลังจาก
ที่ประชาชนกลับมาจากทำาการเกษตร พื้นที่จะใช้ศาลากลางบ้านเป็นพื้นที่ในการปราศรัย โดยว่าที่ ส.ส.จะใช้
รถกระบะที่มีเลือกเสียง ซึ่งง่ายต่อการเคลื่อนย้าย มาเป็นอุปกรณ์ในการปราศรัย ส่วนเก้าอี้ที่นั่งของประชาชน
ก็จะใช้การเช่ายืมจากหมู่บ้านนั้น ทำาให้เกิดรายได้ในหมู่บ้านด้วย
อย่างไรก็ตามข้อสังเกตประการสำาคัญคือ การเคลื่อนไหวทางการเมืองของผู้สมัครสมาชิกสภา
ผู้แทนราษฏรในพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์นั้นมีพรรคการเมืองเพียง 4-5 พรรคการเมืองต่อเขตเท่านั้นที่จัดเวที
ปราศรัยขนาดกลาง และมีประมาณ 10 พรรรคการเมืองที่มีการจัดการปราศรัยในเวทีขนาดเล็ก แสดงให้เห็นว่า
การจัดเวทีปราศรัยเพื่อหาเสียงไม่ได้เป็นรูปแบบการเคลื่อนไหวทางการเมืองที่ทุกพรรคจะใช้ในกลยุทธ์การหาเสียง
ในพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์