Page 87 - kpiebook63005
P. 87

86    การศึกษาความเคลื่อนไหวทางการเมืองและพฤติกรรมการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2562 จังหวัดขอนแก่น






             กระนั้นก็ตาม หากพรรคตัดสินใจเลือกอดิศรหรือธนิกก็จะเป็นการทำาร้ายจิตใจภูมิ สาระผล เนื่องจาก

             ภูมิเป็น ส.ส.ในพื้นที่มาถึง 7 สมัย ตั้งแต่สมัยสังกัดพรรคพลังธรรม ไทยรักไทย พลังประชาชน เรื่อยมา
             จนถึงพรรคเพื่อไทย อีกทั้ง ในการเลือกตั้งปี 2554 ภูมิได้คะแนนเสียงถึง 60,465 คะแนน ทิ้งห่างอันดับ

             ที่สองและสามคือ นายสุริยนต์ วะสมบัติ จากพรรคกิจสังคมและ นายอัษฎางค์ แสวงการ จากพรรคภูมิใจ
             ไทยอย่างถล่มทลายคือ 14,767 คะแนน และ 11,676 คะแนน ตามลำาดับ นอกจากนี้ ด้วยศักยภาพ

             ในการปราศรัยของอดิศร เขาจึงเหมาะกับการเดินทางช่วยผู้สมัครคนอื่นๆ มากกว่าที่จะกระจุกอยู่ใน
             พื้นที่เขต ส่วนธนิก แม้จะมีบทบาทและประสบการณ์ทางการเมือง แต่ในแง่พื้นที่แล้ว ธนิกมีภูมิลำาเนา

             ในอำาเภอมัญจาคีรี ดังนั้น ในเขตนี้จึงเป็นการแข่งขันกันของสองพรรคใหญ่ ระหว่างผู้สมัครหน้าใหม่
             ที่ไม่เคยมีประสบการณ์ในการเมืองระดับชาติทั้งคู่ อนึ่ง ผู้สมัครหน้าใหม่อีกคนจากพรรคอนาคตใหม่

             คือนายสันชัย ทะคง นักธุรกิจเจ้าของรีสอร์ทขนาดใหญ่ในพื้นที่ ซึ่งหวังจะได้รับคะแนนจากคนหนุ่มสาว
             ในพื้นที่อำาเภอเมืองรอบนอก จะส่งผลให้คะแนนของพรรคเพื่อไทยลดน้อยลงไป และจะเป็นผลดีต่อ

             พรรคพลังประชารัฐ


                      ขณะที่ผลสำารวจประชามติจากสำานักหนึ่งในจังหวัดขอนแก่นที่ทำาการสำารวจอย่างเป็นระบบ
             อาศัยกลุ่มตัวอย่างจำานวนมาก (เขต 2 ใช้กลุ่มตัวอย่างจำานวน 1,200 ราย) ครอบคลุมไปทุกตำาบล

                                                                        186
             และหมู่บ้าน (ต่อไปจะเรียกว่า ผลสำารวจประชามติจากสำานัก A)  ได้ทำาการสำารวจประชามติก่อน
             การเลือกตั้ง 2 สัปดาห์ ผลปรากฏว่า อรอนงค์ สาระผลได้รับความนิยมอยู่ที่ 46.3% วัฒนา ช่างเหลา

             31.1% สันชัย ทะคง 15.2% ที่อื่นเป็นผู้สมัครจากพรรคอื่นๆ




                     เขต 3


                      พรรคเพื่อไทยส่งคนเดิมคือ จตุพร เจริญเชื้อ อดีตส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อพรรคไทยรักไทยใน
             ปี 2544 และอดีตส.ส.เขต ปี 2548 2550 และ 2554 ในเขตนี้พรรคเพื่อไทยมีความมั่นใจในจตุพรเป็นอย่างยิ่ง
             เนื่องจากกระแสความนิยมของประชาชนในพื้นที่ที่มีต่อพรรคเพื่อไทยและจตุพรต่อเนื่องเรื่อยมา

             ในการเลือกตั้งปี 2554 จตุพรสามารถชนะอย่างถล่มทลาย โดยได้คะแนนเสียงถึง 66,204 คะแนน ชนะ

             นายอรรถพล ชัยนันท์สมิตย์ จากพรรคกิจสังคมที่ได้ 16,241 คะแนน และ นายปัญญา ศรีปัญญา จาก
             พรรคภูมิใจไทยที่ได้ 15,074 คะแนน  ส่วนคู่แข่งคนสำาคัญของจตุพรในการเลือกตั้งครั้งนี้มี 3 คน
                                               187
             คนแรกคือ นายกิตติ คำาแก่นคูณ อดีตนายกเทศมนตรีตำาบลวังชัย อำาเภอนำ้าพอง จากพรรคพลังประชารัฐ

             มีบทบาทในการเป็นนักการเมืองท้องถิ่นเป็นเวลานาน คนที่สองคือ นายชัชวาล อภิรักษ์มั่นคง นักธุรกิจ

             หนุ่มวัย 37 ปี เป็นนักธุรกิจในครอบครัวที่มีชื่อเสียงในพื้นที่อำาเภอนำ้าพอง สังกัดพรรคอนาคตใหม่ และ


             186  สำานัก A ได้สำารวจผลประชามติเฉพาะในเขต 2 3 5 6 7 และ 10
             187  ปัญญา ศรีปัญญา เป็นอดีตส.ส.ขอนแก่น สังกัดพรรคชาติพัฒนาในปี 2535 และ สังกัดพรรคนำาไทยในปี 2538
             หลังจากนั้นสอบตกมาตลอด จนมาเป็นส.ส.อีกครั้งสังกัดพรรคพลังประชาชนในปี 2550 แต่ย้ายขั้วไปอยู่กลุ่มเพื่อนเนวิน
             เพื่อสนับสนุนให้อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี ส่วนการเลือกตั้งในปี 2562 นี้ ปัญญาประกาศว่าสนับสนุน
             พรรคพลังประชารัฐ พิจารณาใน “เด็ก ‘สมศักดิ์ เทพสุทิน’ ยันอดีตส.ส.-ส.ว.แห่ซบ ‘พลังประชารัฐ’ อื้อ ยอดล่าสุด 54
             คน” มติชน, 4 มิถุนายน 2561 https://www.matichon.co.th/politics/news_983991 (เข้าถึงเมื่อ 6 มิถุนายน 2561)
   82   83   84   85   86   87   88   89   90   91   92