Page 140 - kpiebook63005
P. 140
139
ภาควัตให้สัมภาษณ์กับผู้วิจัย พร้อมยอมรับว่า การหาเสียงเป็นไปอย่างลำาบาก เนื่องด้วยชาวบ้าน
ในเขต ต่างชอบนโยบายสวัสดิการแห่งรัฐของรัฐบาลเป็นจำานวนมาก ส่วน อสม. ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นฐานเสียง
ให้พรรคเพื่อไทยก็หวั่นไหวกับนโยบายเพิ่มเงินเดือน อสม.เป็นเดือนละ 1,000 บาท ตลอดจนคู่แข่งเป็น
นักการเมืองท้องถิ่นมานานและเป็นผู้กว้างขวางในพื้นที่ ซึ่งขยับหาเสียงก่อนตนเองมาเนิ่นนาน โดยได้รับ
การสนับสนุนจากกลไกรัฐและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ ภาควัตกล่าวว่า ตนเองไม่เน้นหาเสียง
ผ่านกำานันผู้ใหญ่บ้านเพราะกลไกรัฐเหล่านี้เป็นฝ่ายของพรรคการเมืองตรงข้าม เพราะคนเหล่านี้ร่วมทำา
โครงการกับรัฐบาลมานานตั้งแต่โครงการตำาบลละ 5 ล้านบาท รวมถึงนโยบายต่างๆ ที่เอาใจกำานันผู้ใหญ่บ้าน
“แต่ผมไม่สนใจ พวกเขาเป็นคนส่วนน้อย แม้จะอยู่ใกล้กับชาวบ้าน สมัยนี้ประชาชนไม่ได้เชื่อฟังกำานัน
ผู้ใหญ่บ้าน” นอกจากนี้ ภาควัตยังกังวลถึงเครือข่ายฐานเสียงเดิมของพ่อ เนื่องจากหลายคนทยอยเสียชีวิต
ขณะที่อีกหลายคนอายุมาก ซึ่งคนเหล่านี้มีแนวโน้มจะไปเลือกพรรคพลังประชารัฐเนื่องจากประทับใจ
นโยบายช่วยเหลือผู้สูงอายุของรัฐบาลที่ผ่านมา ส่วนอุปสรรคส่วนตัวคือตนเองมักจะถูกผู้กว้างขวางใน
พื้นที่นินทาตนเองกับชาวบ้านว่า “เด็กน้อยเมื่อวานซืน ไม่มีผลงาน พ่อไม่เคยทำาอะไรให้ชาวบ้าน” ภาควัต
เล่าอีกด้วยว่า ในการพูดคุยกับชาวบ้าน เขาจะยำ้าถึงความอยุติธรรมที่พรรคเพื่อไทยได้รับเสมอ เช่นมีการ
รัฐประหารปี 2549 ต่อมายุบพรรคไทยรักไทย ยุบพรรคพลังประชาชน “ผมก็บอกไปว่าผมพูดความจริงนะ
ทุกคนก็สัมผัสได้ บอกชาวบ้านอีกว่า ถ้าคิดว่าอยู่แบบนี้มีความสุขแล้วเนี่ย ก็กลับไปบอกญาติพี่น้อง
ให้เลือกพลังประชารัฐ เพื่อจะได้เอานายกประยุทธ์กลับมาบริหารประเทศอีก (หัวเราะ) อีกวันหนึ่งทหาร
โทรหาผมทันที แต่ทหารฝั่งประชาธิปไตยนะครับ โทรมาบอกว่า ทหารในพื้นที่รายงานว่าผมมักพูดแรง
ผมก็ตอบว่าผมไม่ได้พูดแรง ผมพูดความจริง จากนั้น ผมไปไหนจะมีแต่ตำารวจและทหารนอกเครื่องแบบ
ตามตลอด” ทั้งนี้ ในช่วงการหาเสียงหามรุ่งหามคำ่า ชาวบ้านจำานวนมากที่เขาคุยด้วยต่างบอกว่าจะเลือก
พรรคเพื่อไทย เนื่องจากชื่นชอบนโยบายพรรคเพื่อไทยที่สานต่อมาจากพรรคไทยรักไทยที่อยู่ในใจพวกเขา
มาตลอด แต่พวกเขาจะไม่แสดงออกว่าเลือก เนื่องจากจะทำาให้พวกเขาไม่ได้รับเงินจากพรรคอื่นๆ
(สัมภาษณ์ 23 ธันวาคม 2561)
ในส่วนของทีมงานหาเสียงของวิบูลย์เล่าให้ผู้วิจัยฟังว่า วิบูลย์ทำาทุกอย่างเต็มที่แล้ว แต่สู้กระแส
พรรคเพื่อไทยและคนเสื้อแดงในพื้นที่ไม่ได้จริงๆ อาจจะเพราะชาวบ้านยังเข้าใจท่าทีของพรรคพลังประชารัฐ
ไม่เพียงพอ เข้าใจแค่ว่าพรรคพลังประชารัฐเน้นสืบทอดอำานาจให้ คสช. แต่จริงๆ แล้ว พรรคพลังประชารัฐ
มีทีมงานนโยบายด้านเศรษฐกิจที่ไม่เป็นรองพรรคใด อีกทั้ง การได้คะแนน 21,024 ถือว่าน้อยกว่า
ความคาดหวัง เนื่องจากคิดว่าจะได้ไม่น้อยกว่า 40,000 เสียง (สัมภาษณ์ 1 เมษายน 2562) 242
242 ผู้วิจัยพยายามขอสัมภาษณ์วิบูลย์ช่วงเดือนมิถุนายนและกรกฎาคม แต่วิบูลย์ไม่สะดวกเนื่องจากต้องดูแลแม่ที่กำาลัง
มีปัญหาสุขภาพ กระทั่งแม่ของวิบูลย์เสียในวันที่ 9 กรกฎาคม 2562 ผู้วิจัยต้องขอแสดงความเสียใจมา ณ ที่นี้ด้วย