Page 139 - kpiebook63005
P. 139

138   การศึกษาความเคลื่อนไหวทางการเมืองและพฤติกรรมการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2562 จังหวัดขอนแก่น








                      ข้อสังเกตจากผลการเลือกตั้งมีดังนี้


                      พรรคเพื่อไทยส่งภาควัต ศรีสุรพล วัย 33 ปี ลงสนามระดับชาติเป็นครั้งแรกแทนนายสุชาย ศรีสุรพล

             ซึ่งเพิ่งเสียชีวิตเมื่อวันที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2561 สุชายเขียนพินัยกรรมไว้ว่า ให้ภาควัตเป็นตัวแทนทางการเมือง
             ของตนเอง ในการเลือกตั้งปี 2554 สุชายที่ได้คะแนน 60,046 เสียง ทิ้งห่างอันดับสองคือ ดาบตำารวจพิชิต

             ศรีวิไลจากพรรคภูมิใจไทยที่ได้ 12,573 เสียง ภาควัตเป็นอดีตสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัดในเขต
             อำาเภอภูเวียง (ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาอบจ.ในปี 2555 ภาควัตได้คะแนนในอำาเภอภูเวียง 14,542 คะแนน)

             ภาควัตต้องแข่งขันกับนายวิบูลย์ เรืองประเสริฐกุล จากพรรคพลังประชารัฐ อดีตสมาชิกองค์การบริหาร
             ส่วนจังหวัดในเขตอำาเภอเวียงเก่า (ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาอบจ.ปี 2555 ได้ 6,050 คะแนน) ซึ่งทั้งสองคน

             เป็นคู่แข่งที่สมนำ้าสมเนื้อ ภาควัตมีฐานเสียงและเครือข่ายของพ่อ ขณะที่วิบูลย์มีฐานเสียงจากการเป็น
             การเมืองท้องถิ่นมานาน มีธุรกิจกว้างขวางและมีผลงานโดดเด่นในพื้นที่ อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณา

             จากผลคะแนน ปรากฏว่า ภาควัตชนะขาดลอยเกือบในทุกตำาบล รวมถึงทั้งสามตำาบลในอำาเภอเวียงเก่า
             ฐานเสียงของวิบูลย์


                      เนื่องด้วยภาควัตเป็นผู้สมัครหน้าใหม่แต่อยู่ในเขต 5 ซึ่งถือว่าเป็นพื้นที่ของคนเสื้อแดงที่เข้มแข็ง

             โดยเฉพาะในอำาเภอภูเวียง หนองนาคำา และสีชมพู (อำาเภอสีชมพูเคยเป็นฐานพรรคคอมมิวนิสต์แห่ง
             ประเทศไทยของขอนแก่นในอดีต ขึ้นชื่อว่าเป็นพื้นที่ที่ไม่เอาระบอบทหาร) ภาควัตจึงต้องทำางานหนัก
             เพื่อสร้างการยอมรับให้กับคนในพื้นที่ทุกตำาบล เพราะก่อนหน้านี้ภาควัตจะมีฐานเสียงหลักแค่ในอำาเภอ

             ภูเวียงบ้านเกิดเท่านั้น นอกจากนี้ ภาควัตต่างจากผู้สมัครพรรคเพื่อไทยคนอื่นในจังหวัดขอนแก่นที่พูด

             ภาษาอีสานได้ไม่คล่อง ไม่ต่างจากคนอีสานรุ่นใหม่ทั่วไป สมัยเป็นนักเรียน ภาควัตศึกษาในจังหวัดชลบุรี
             ส่วนระดับปริญญาตรีและปริญญาโท เรียนที่มหาวิทยาลัยขอนแก่น แกนนำาพรรคเพื่อไทยคนหนึ่งในจังหวัด
             ขอนแก่นวิเคราะห์ว่า จุดแข็งของภาควัตคือ มีคะแนนจากกระแสพรรค คะแนนจากฐานเสียงของพ่อ ซึ่งมี

             ประชาชนไม่น้อยมอบคะแนนสงสารให้กับภาควัตที่ต้องสูญเสียพ่อก่อนการเลือกตั้งไม่นาน ประกอบกับ

             ด้วยความสุภาพอ่อนน้อมถ่อมตนของภาควัต ไม่ว่าจะเจอใครภาควัตจะไหว้และพูดจาอ่อนหวานให้กับ
             ทุกคน ในการหาเสียงทุกวัน ภาควัตมีพัฒนาการที่ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการพูดภาษาอีสานคล่องขึ้น การใช้
             สื่อออนไลน์แสดงถึงกิจกรรมการหาเสียงในแต่ละวัน การสนทนากับประชาชนในสื่อออนไลน์ การคลุกคลี

             กับชาวบ้านตั้งแต่เช้ามืดจนกลางคืนอย่างไม่เหน็ดเหนื่อย เดินทุกหลังคาเรือน เข้าร่วมงานกิจกรรมต่างๆ

             จำานวนมาก ตลอดจนเป็นคนพูดจาตลก จนทำาให้ชาวบ้านนิยมชมชอบ โดยเฉพาะประโยคที่พูดสมำ่าเสมอ
             ในเวทีปราศรัยย่อยต่างๆ คือ “คู่แข่งผมบอกว่าคู่แข่งตนเองเป็นเด็ก ผมไม่ซีเรียส แต่มาเรียกผมว่า
             บักหำาน้อยเนี่ย คำาๆ นี้ผมรับไม่ได้ รู้ได้ยังไงว่าผมบักหำาน้อย” (สัมภาษณ์วันที่ 5 พฤษภาคม 2562) อนึ่ง

             ผู้สื่อข่าวท้องถิ่นในจังหวัดขอนแก่นกล่าวถึงภาควัตว่า มีผลงานในการทำางานร่วมกับชุมชนมาอย่างโดดเด่น 241







             241  “เจาะสนามเลือกตั้งขอนแก่น ‘พลังประชารัฐ’ ประกาศท้าชน ‘เพื่อไทย’” ไทยโพสต์, 23 กุมภาพันธ์ 2562 หน้า 8
   134   135   136   137   138   139   140   141   142   143   144