Page 128 - kpiebook63005
P. 128

127








                          อนึ่ง การที่ชัชวาลชนะนายกิตติ คำาแก่นคูณ จากพรรคพลังประชารัฐได้ ถือว่าเป็นความสำาเร็จ

                  ระดับใหญ่เลยทีเดียว ทั้งนี้ นายกิตติดำารงตำาแหน่งเป็นอดีตนายกเทศมนตรีตำาบลวังชัย อำาเภอนำ้าพอง
                  (ผลคะแนนในตำาบลนี้กิตติชนะขาดลอย) เล่นการเมืองท้องถิ่นมาเนิ่นนานและก่อนหน้านี้เคยอยู่ในทีมเดียว

                  กับจตุพรมาก่อน จากนั้นจึงถูกทาบทามให้เป็นผู้สมัคร ส.ส.พลังประชารัฐ สำาหรับชัชวาลนั้น ครอบครัว
                  ของเขาประกอบธุรกิจขายเครื่องใช้ไฟฟ้าชื่อดังในอำาเภอนำ้าพอง ด้วยการที่เป็นครอบครัวที่มีชื่อเสียง

                  กว้างขวางในอำาเภอนำ้าพอง บริษัทจึงได้จัดกิจกรรมคืนกำาไรให้ลูกค้าอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ พี่สาว
                  ยังได้จัดตั้งสโมสรฟุตบอลนำ้าพอง ยูไนเต็ด ซึ่งคาดว่าในอนาคตจะมีชื่อเสียงและสามารถขึ้นอยู่ลีกในระดับ

                  ภูมิภาคได้ ดังนั้น ชัชวาลจะเป็นคู่แข่งที่สำาคัญของพรรคเพื่อไทยในอนาคต


                          ชัชวาลเคยให้สัมภาษณ์ว่า สาเหตุที่มาลงรับสมัครเลือกตั้งเนื่องจากประทับใจว่าการทำาการเมือง
                  แบบใหม่ของพรรคอนาคตใหม่ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดโอกาสให้สมาชิกพรรคทำาไพรมารีโหวต การมีกิจกรรม

                  ของพรรคที่แสดงถึงอุดมการณ์ก้าวหน้า และชื่นชอบนโยบายพรรค อีกทั้ง เล่าว่า “อีกหนึ่งปัจจัยคือ
                  ผมไม่โอเคกับการสืบทอดอ�านาจ คสช. รวมทั้งสิ่งที่ผมไม่อยากเห็นไม่อยากอยู่คือ แผนยุทธศาสตร์ 20 ปี

                  ที่อยากให้คนทุกรุ่น ทุกช่วงวัยมีส่วนร่วมในการออกความคิดเห็นมากกว่าครับ” แต่การลงพื้นที่ทั้งสองอำาเภอ
                  ชัชวาลพบว่าเป็นเรื่องที่หนักหนา เนื่องจากทั้งสองอำาเภอเป็นอำาเภอใหญ่ ผู้คนห่างไกลกระจัดกระจาย

                  ไปตามที่ต่างๆ ในช่วงแรกชาวบ้านไม่ได้เปิดใจให้พรรคอนาคตใหม่ เปิดใจให้แค่พรรคเพื่อไทยและ
                  พลังประชารัฐ ตลอดจน ตนเองต้องเจอ “การสาดโคลนจากพรรคคู่แข่งที่ใช้วิธีการหาเสียงแบบเก่าๆ และ

                  อำานาจพิเศษ ที่ช่วยพรรคที่สนับสนุนการสืบทอดอำานาจครับ ฝ่ายปกครอง สาดโคลน เช่น พรรคเด็กๆ
                  จะไปทำาไรได้ ลงเล่นๆ เช็คคะแนนตัวเอง  ใช้เงินซื้อเสียงแต่จ่ายไม่ทั่วถึง พรรคนี้ไม่เอาเจ้า” อนึ่ง ชัชวาล

                  เล่าถึงรูปแบบการหาเสียงของตนเองในฐานะลงเล่นการเมืองครั้งแรกว่า ตนเองใช้วิธีเดินหน้าแหลก
                  เข้าถึงประชาชนกลุ่มผู้สูงอายุ ใช้สื่อออนไลน์ติดต่อกับคนรุ่นใหม่ เน้นไปหาเสียงตามโรงเรียนมัธยม

                  เพื่อให้ไปคอยกระตุ้นพ่อแม่พวกเขาในแต่ละครอบครัวด้วย ส่วนที่แพ้พรรคเพื่อไทย เนื่องจากยอมรับว่า
                  พรรคเพื่อไทยเป็นเจ้าของพื้นที่เดิม ประชาชนยังชอบนโยบาย ชื่อคุณทักษิณยังขายได้ แต่อนาคตเชื่อว่า

                  พรรคอนาคตใหม่จะเข้าไปแทนที่พรรคเพื่อไทยได้และส่วนที่ชนะพลังประชารัฐ ชัชวาลกล่าวว่า “เรื่องนี้
                  ผมมองว่าเป็นเรื่องของพรรคการเมืองล้วนๆ จะเห็นได้จากผู้สมัครจากพลังประชารัฐตอนหาเสียงแรกๆ

                  คะแนนโพลล์ก็มาดี แต่ตอนนั้นผู้สมัครไม่เคยประกาศบอกว่าตัวเองสังกัดพรรคการเมืองใด เพราะประชาชน
                  ในเขตนี้ชัดเจนมากว่า ไม่เอาพรรคที่สนับสนุน คสช.” (สัมภาษณ์ 14 พฤษภาคม 2562) อย่างไรก็ตาม

                  ประชาชนจำานวนไม่น้อยในเขต 3 คือ 26,636 เสียงได้เลือกนายกิตติจากพรรคพลังประชารัฐ

                          เมื่อรวมคะแนนพรรคที่ประกาศว่าไม่เอาการสืบทอดอำานาจของ คสช. ในส่วน 10 อันดับแรก

                  จะพบว่า พรรคเพื่อไทย (34,676) พรรคอนาคตใหม่ (29,274) พรรคเสรีรวมไทย (932) พรรคเพื่อชาติ

                  (590) และ พรรคเศรษฐกิจใหม่ (475) เท่ากับ 65,947 คะแนน ซึ่งถือว่าสูงเป็นอย่างยิ่งเมื่อเทียบกับ
                  ฝ่ายที่ยังสนับสนุนให้พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรีต่อไป ตัวเลขดังกล่าวแสดงว่าประชาชนส่วนใหญ่
                  ในอำาเภอนำ้าพองและอำาเภอกระนวนปฏิเสธต่อระบอบสืบทอดอำานาจของ คสช.
   123   124   125   126   127   128   129   130   131   132   133