Page 93 - kpiebook62014
P. 93

การที่มีหน่วยงานราชการเข้ามาถึงระดับหมู่บ้านเป็นการสร้างก าลังใจให้แก่ชาวบ้าน ว่าพวกเขาได้รับความ

               สนใจ ขณะเดียวกันการถ่ายทอดความรู้จากสถาบันพระปกเกล้าสู่ชาวบ้านโดยตรงจะได้รับการยอมรับมากกว่า
               การที่จะให้คนในชุมชนไม่ว่าจะเป็นผู้น า หรือ อาสาสมัครสาธารณะสุขประจ าหมู่บ้าน (อสม.) เป็นฝ่ายถ่ายทอด

               เพราะชาวบ้านยังมีวัฒนธรรมที่ให้ความเกรงใจและเคารพ “หน่วยเหนือ” หรือก็คือหน่วยงานที่มาจากส่วนกลาง

               อย่างมาก ดังค าพูดของผู้น าท่านหนึ่งที่ว่า “เขาจะเกรง”
                       อย่างไรก็ตาม ผู้น าท้องที่ และผู้น าท้องถิ่น ต่างมีความเห็นพ้องกันว่าการด าเนินกิจกรรมที่ผ่านมาอาจยัง

               ไม่เพียงพอต่อการสร้างส านึกในเรื่องของการเลือกตั้งสมานฉันท์และไม่ซื้อสิทธิขายเสียงเพราะว่าเมื่อจัดเวที

               ระดับหมู่บ้านแห่งใหม่ ก็จะท าให้หมู่อื่นลืมได้ แม้ว่าจะมีแผนจัดเวทีโซนหมู่บ้านและเวทีรวมอีกครั้งก่อนจะมี

               การเลือกตั้ง ก็อาจจะนานเกินไป
                       ดังนั้น ภายหลังจากการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นต่อผลการด าเนินกิจกรรมส่งเสริมการเลือกตั้ง

               สมานฉันท์และไม่ซื้อสิทธิขายเสียงที่ผ่านมาและทุกฝ่ายเห็นพ้องกันว่าแม้ว่าจะไม่ใช่ทุกคนที่เห็นด้วยว่าการ

               ด าเนินกิจกรรมนี้จะประสบความส าเร็จในการส่งเสริมให้ชุมชนมีความเข้มแข็งจริง แต่คนส่วนใหญ่มีความ

               สนใจ และมองว่ามีความเป็นไปได้ “ระดับปานกลาง” ในการด าเนินโครงการชุมชนพลเมืองเข้มแข้งผ่านการ
               ส่งเสริมการเลือกตั้งสมานฉันท์และไม่ซื้อสิทธิขายเสียง ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการเปิดรับกิจกรรมที่ด าเนินการผ่าน

               มา และสะท้อนให้เห็นว่ากิจกรรมที่ผู้วิจัยและผู้น าท้องที่ ผู้น าท้องถิ่น และปราชญ์ชาวบ้านด าเนินการมานั้นถูก

               ทิศทางแล้ว
                       อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับในเรื่องของความ “ไม่เพียงพอ” และ “ความไม่ต่อเนื่อง” ดังที่ผู้น าท่านหนึ่ง

               ให้ข้อสังเกตว่าเมื่อผู้น าและผู้วิจัยย้ายพื้นที่ปฏิบัติการไปยังหมู่อื่น ก็ท าให้หมู่ที่จัดกิจกรรมก่อนหน้ามีความรู้สึก

               ห่างเหินจากกิจกรรมและอาจลืมได้  ซึ่งเป็นข้อจ ากัดเรื่องของ “จ านวน” ผู้ด าเนินกิจกรรมอย่างแท้จริง เพราะผู้
               ด าเนินกิจกรรมส่วนใหญ่ที่เป็น “แกนน าด าเนินกิจกรรม” อยู่ในขณะนี้ ส่วนใหญ่เป็น “ผู้น าชุมชน” ซึ่งมีภารกิจ

               มากจึงไม่อาจทุ่มเทให้กับการส่งเสริมการเลือกตั้งสมานฉันท์และไม่ซื้อสิทธิขายเสียงได้ ประกอบกับในส่วน

               ของผู้วิจัยที่ไม่ใช่คนในพื้นที่จึงไม่อาจขับเคลื่อนกิจกรรมอย่างต่อเนื่องได้ อีกทั้ง การคาดหวังให้ผู้วิจัยฝังตัวและ
               ขับเคลื่อนกิจกรรมนี้อย่างต่อเนื่องก็ไม่สอดคล้องกับกรอบการวิจัยเรื่องการสร้างความเป็นพลเมืองและการ

               พัฒนาชุมชนเข้มแข็งที่ผู้วิจัยได้ก าหนดไว้ ในเรื่องที่เน้นการสร้างความรู้ความเข้าใจและส่งเสริมการปฏิบัติจาก

               คนในพื้นที่เอง ดังนั้น เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องการค้นหาแกนน าในพื้นที่ที่มี “จิตอาสา” และพร้อมที่จะ

               ขับเคลื่อนกิจกรรมส่งเสริมการเลือกตั้งไม่ซื้อสิทธิขายเสียงอย่างต่อเนื่องจึงมีความจ าเป็น
                       ด้านบริบทด้านการเมืองที่ยังไม่มีการเลือกตั้ง เป็นอีกเงื่อนไขส าคัญประการหนึ่งที่ส่งผลต่อความสนใจ

               ของคนในชุมชน ทั้งยังส่งผลต่อความจริงจังและความต่อเนื่องของการท ากิจกรรมเลือกตั้งไม่ซื้อสิทธิขายเสียง

               ของแกนน าต่อการรณรงค์กิจกรรมนี้ เพราะแม้จะมีข่าวว่าการเลือกตั้งระดับชาติอาจเกิดขึ้นประมาณเดือน




                                                                                                           84
   88   89   90   91   92   93   94   95   96   97   98