Page 92 - kpiebook62014
P. 92
ผลการทบทวนการปฏิบัติกิจกรรมตามแผนและแผนกิจกรรมฉบับปรับปรุง
ภายหลังจาก ผู้วิจัยร่วมกับผู้น าท้องที่ผู้น าท้องถิ่นและปราชญ์ชาวบ้านด าเนินกิจกรรมส่งเสริมการ
เลือกตั้งไม่ซื้อสิทธิขายเสียง ในการจัดเวทีประกาศเจตนารมณ์ และเวทีประชุมเชิงปฏิบัติการในระดับหมู่บ้านทั้ง
8 แห่งไปแล้วระยะหนึ่ง ผู้วิจัยเห็นควรมีการจัดสนทนากลุ่มระหว่างผู้น าท้องที่ ผู้น าท้องถิ่น และปราชญ์ชาวบ้าน
ที่ร่วมกัน เพื่อทบทวนว่าการด าเนินกิจกรรมดังกล่าวมีประสิทธิภาพและตรงตามเป้าหมายในการส่งเสริมชุมชน
พลเมืองเข้มแข็งผ่านกิจกรรมเลือกตั้งสมานฉันท์และไม่ซื้อสิทธิขายเสียงหรือไม่ สามารถตอบวัตถุประสงค์ใน
การวิจัยเพียงใด
โดยการสนทนากลุ่มในครั้งนี้ จัดขึ้นเมื่อวันที่ 20 มกราคม 2561 ณ ห้องประชุมเทศบาลต าบลปอภาร
โดยมีผู้น าท้องที่ท้องถิ่นปราชญ์ชาวบ้านและตัวแทนภาคประชาชน เข้าร่วมประมาณ 30 คน ส าหรับประเด็นใน
การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประกอบด้วย ผลการด าเนินกิจกรรมที่ผ่านมา ทบทวนสถานการณ์การเลือกตั้งระดับชาติ
และระดับท้องถิ่น จากนั้น ร่วมกันถอดบทเรียนว่าการด าเนินกิจกรรมที่ผ่านมาประสบความส าเร็จเพียงใด
หากจ าเป็นต้องปรับปรุงกิจกรรมเพื่อให้ตอบวัตถุประสงค์ของการวิจัย ในเรื่องการสร้างชุมชนเข้มแข็ง ผ่านการ
ด าเนินกิจกรรมเลือกตั้งสมานฉันท์และไม่ซื้อสิทธิขายเสียงโดยพิจารณาเงื่อนไขด้านการเมืองและสถานการณ์
ด้านการเลือกตั้งประกอบกันควรจะต้องมีการปรับปรุงแผนการด าเนินการอย่างไร
โดยผู้วิจัยได้น าเสนอผลการถอดบทเรียนกิจกรรมส่งเสริมชุมชนพลเมืองเข้มแข็งผ่านการส่งเสริมการ
เลือกตั้งไม่ซื้อสิทธิขายเสียงที่ผ่านมาว่า ผลจากการสังเกตพบว่าคนส่วนใหญ่ให้ความสนใจการด าเนินโครงการ
โดยมีความกระตือรือร้นแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกันในเวทีประชุมเชิงปฏิบัติการ อย่างไรก็ตาม มีบางส่วนที่เห็น
ด้วยกับการด าเนินกิจกรรมและพร้อมเข้าร่วมกิจกรรมเลือกตั้งไม่ซื้อสิทธิขายเสียงนี้ ดังปรากฏให้เห็นจากการที่มี
ผู้เข้าร่วมประชุมเพียงร้อยละ 24.66 ที่แสดงตัวออกมาหยิบ “เข็มกลัดโลโก้โครงการ” ที่ผู้วิจัยจัดเตรียมไว้ใน
กิจกรรมเวทีประกาศเจตนารมณ์ จากผู้เข้าร่วมการประชุม 300 คนในเวทีนั้น ซึ่งผลของกิจกรรม “เข็มกลัดแทน
ใจ” นี้สอดคล้องกับผลจากแบบสอบถามความเป็นไปได้ของการด าเนินโครงการส่งเสริมการเลือกตั้งสมานฉันท์
และไม่ซื้อสิทธิขายเสียงพบว่าคนส่วนใหญ่มองว่าการส่งเสริมการเลือกตั้งสมานฉันท์ไม่ซื้อสิทธิขายเสียงใน
เทศบาลต าบลปอภารมีความเป็นไปได้ “ปานกลาง” มากที่สุด
อย่างไรก็ตาม ปราชญ์ชาวบ้านท่านหนึ่งกลับมองว่า กิจกรรมที่ผ่านมานั้นเป็นสิ่งที่ดีมาก และเป็น
จุดเริ่มต้นที่ส าคัญที่จะท าให้คนมีความรู้ มีความตระหนัก แม้ว่าช่วงแรกอาจยังไม่ค่อยได้ผล เพราะการ “สร้าง
คน” เป็นงานที่หนัก ต้องใช้เวลา ถึงอย่างนั้นก็อยากให้มีการเข้าถึงระดับหมู่บ้านอย่างต่อเนื่อง
ขณะที่ ผู้น าท้องที่ส่วนใหญ่พึงพอใจอย่างมากกับการจัดเวทีประชุมเชิงปฏิบัติการในระดับหมู่บ้าน
ดังค าพูดของผู้น าท่านหนึ่งว่า “ผมคิดว่าได้ผลมาก” โดยให้เหตุผลว่าที่ผ่านมาน้อยนักที่หน่วยงานภาครัฐจะเข้ามา
ให้ความรู้กับชาวบ้านในระดับหมู่บ้าน การเข้ามาส่วนใหญ่เป็นภาพรวมคือระดับต าบลหรือระดับอ าเภอมากกว่า
83