Page 117 - kpiebook62014
P. 117

ต้องเสียตามปกติ หากผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 58 ต้องระวางโทษจ าคุกตังแต่ 1 ถึง 5 ปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึง

               หนึ่งแสนบาท หรือทั้งจ าทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งมีก าหนด 5 ปี (ม.119)
                       ม.81 ห้ามมิให้ผู้ใดจ่าย แจก หรือให้เงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดแก่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งเพื่อจูงใจมิให้

               ไปลงคะแนนเลือกตั้ง หรือกระท าการใดๆ เพื่อมิให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งไปลงคะแนนเลือกตั้ง ซึ่งหากผู้ใดฝ่าฝืน ต้อง

               ระวางโทษจ าคุกตั้งแต่ 1 ปี ถึง 10 ปี หรือปรับตั้งแต่ สองหมื่นบาท ถึง สองแสนบาท หรือทั้งจ าทั้งปรับและให้
               ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งมีก าหนด 10 ปี (ม.127 )

                       ม.82 ห้ามมิให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งผู้ใดเรียก รับ หรือยอมจะรับเงิน ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดส าหรับ

               ตนเองหรือผู้อื่น เพื่อลงคะแนนเลือกตั้งหรืองดเว้นไม่ลงคะแนนเลือกตั้งให้แก่ผู้สมัครใด

                       ผู้ใดฝ่าฝืน ม.82 ต้องระวางโทษจ าคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือไม่เกิน หนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจ าทั้งปรับ
                       ในกรณีที่ผู้ฝ่าฝืนตามวรรคหนึ่ง เป็นผู้รับหรือยอมจะรับเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด ถ้าได้แจ้ง

               ถึงการกระท าดังกล่าวต่อคณะกรรมการการเลือกตั้งหรือผู้ซึ่งคณะกรรมการการเลือกตั้งมอบหมายก่อนหรือใน

               วันเลือกตั้งผู้นั้นไม่ต้องรับโทษ (ม.128)


                       ข้างต้นเป็นเพียงส่วนหนึ่งของพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่น

               พ.ศ. 2545 ที่ระบุไว้อย่างชัดเจนว่าเรื่องใดที่ผู้สมัครท าได้หรือท าไม่ได้ในการหาเสียง รวมไปถึง ยังระบุไว้ชัดเจน

               ว่าในส่วนของผู้ที่มีสิทธิเลือกตั้งนั้นหาก “...เรียก รับ หรือยอมจะรับเงิน ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด” จาก
               ผู้สมัคร ถือว่าเป็นความผิดตามมาตรา  82 และต้องรับโทษจ าคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือไม่เกิน หนึ่งหมื่นบาท แม้ว่า

               มีแนวโน้มว่ากฎหมายฉบับนี้จะมีการปรับปรุงก่อนประกาศให้มีการเลือกตั้งท้องถิ่น  อย่างไรก็ตาม คาดว่า
                                                                                         26
               ประเด็นเรื่องการป้องกันการซื้อสิทธิขายเสียงที่ได้รับการบรรจุอยู่ใน พระราชบัญญัติฉบับนี้จะไม่มีการ
               เปลี่ยนแปลงไปในทิศทางอื่น ด้วยเหตุนี้ ผู้วิจัยจึงได้จัดท าเอกสารใบความรู้จากพระราชบัญญัติการเลือกตั้ง

               สมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2545 ขึ้นเผยแพร่

                       อย่างไรก็ตาม เมื่อมีการปรับแผนการวิจัยมุ่งเน้นใช้การเลือกตั้งระดับท้องที่ เป็นกรณีศึกษาในการ
               ด าเนินโครงการวิจัยเชิงปฏิบัติการเพื่อส่งเสริมชุมชนเข้มแข็งผ่านการเลือกตั้งไม่ซื้อสิทธิขายเสียงในครั้งนี้ผู้วิจัย

               จึงได้จัดเตรียมข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งในระดับท้องที่ ส าหรับการประชุมเชิงปฏิบัติการร่วมกับจิตอาสา

               ในครั้งที่ 3 นี้ด้วย แต่เนื่องจากก่อนหน้าการประชุมดังกล่าวจะเกิดขึ้นมีผู้หนึ่งได้โทรศัพท์สอบถามเรื่องกฎหมาย

               ที่เกี่ยวข้องกับการเลือกผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 2 กับผู้วิจัย โดยผู้ที่โทรศัพท์เข้ามานั้น แจ้งว่าเป็นสามีของจิตอาสาหมู่ที่
               2 ผู้หนึ่ง และเป็นผู้ที่คาดว่าจะลงสมัครรับเลือกเป็นผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 2 โดยที่โทรศัพท์มาสอบถามนั้นเนื่องจาก




               26  บีบีซีไทย. “บันได 3 ขั้นสู่การเลือกตั้งท้องถิ่น จะเร็วจริงตามสัญญา?”. วันที่ 16 พฤศจิกายน 2560   ที่มา:

               http://www.bbc.com/thai/42010809

                                                                                                         108
   112   113   114   115   116   117   118   119   120   121   122