Page 132 - 22665_Fulltext
P. 132

115







                       กับคณะกรรมการหมู่บ้าน ขั้นตอนการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท ผู้ใหญ่บ้านหรือประธาน(ผู้อาวุโส) จะพูดให้
                       เห็นถึงโทษของการทะเลาะกัน และประโยชน์ของการอยู่ร่วมกัน พูดให้คู่กรณีรักกัน หากสามารถให้อภัย
                       กันได้ ก็ให้ขออภัยกัน และยกขันหมากมาขอขมาพ่อแม่ของทั้ง 2 ฝ่าย รวมถึงมีการท าบันทึกข้อตกลง
                       เก็บไว้ที่ท าการผู้ใหญ่บ้าน ขั้นตอนภายหลังการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท ภายหลังจากไกล่เกลี่ยข้อพิพาทมี
                       การติดตามประเมินผลภายหลังจากไกล่เกลี่ยข้อพิพาทว่ายังมีการทะเลาะกันอีกหรือไม่



                                        7) กลไกในการแก้ไขความขัดแย้งด้วยการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทโดยคนกลาง
                                        กลไกในการแก้ไขความขัดแย้งด้วยการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทโดยคนกลางในชุมชน

                       จะเน้นแก้ปัญหากันในระดับหมู่บ้านก่อน หากไม่ได้จะมาที่ระดับต าบล และบางเรื่องไปที่ศูนย์ด ารง
                       ธรรมอ าเภอ และศาลยุติธรรม การไกล่เกลี่ยข้อพิพาทในระดับต าบลมีก านันเป็นคนกลาง มีทั้งเรื่อง

                       การทะเลาะกันระหว่างลูกบ้าน เรื่องเขตแดน เรื่องอนาจาร ในเรื่องเขตแดน ก านันจะใช้วิธีการ ไปดู
                       พื้นที่ด้วยกัน ให้เขาดูแนวเขตที่พอจะยอมรับร่วมกันได้ และพูดถึงการอยู่ร่วมกัน ความเอื้ออาทรต่อ

                       กัน อธิบายถึงความผูกพันในอดีต ไม่เน้นกฎหมายเป็นหลัก แต่ต้องมีการบันทึกข้อตกลงเนื่องจากเป็น

                       สิ่งส าคัญและจ าเป็น การไกล่เกลี่ยโดยก านันจะมีการบันทึกข้อตกลงทุกครั้ง มีความรัดกุมเพื่อป้องกัน
                       ตัวเราเองด้วยในการถูกด าเนินคดี ส าหรับการไกล่เกลี่ยในระดับหมู่บ้านก็เช่นกันจะมีการไกล่เกลี่ยใน

                       รูปแบบของคณะกรรมการ มีการนัดเวลากัน เมื่อพร้อมเพรียงกันแล้วจะมีการเริ่มต้นไกล่เกลี่ย ที่

                       หมู่บ้านทับทิมสยาม 07 จะเรียกว่าการเปิดศาลไกล่เกลี่ย และมีค่าปริบสินไหม จ านวนเงิน 200 บาท
                       ไม่ว่าเรื่องจะจบอย่างไรก็ตาม บางหมู่บ้านคิดค่าปรับสินไหม 500 บาท

                                        “พยายามจะชี้แจงให้เขาฟัง ว่ามีที่ติดกันต้องอาศัยซึ่งกันและกัน อยู่นานตลอด
                       ชีวิต ไม่อยากให้มีปัญหา บางทีพูดว่า ตายไปเอาอะไรไปไม่ได้หรอก อยู่ด้วยกันจะได้ช่วยดูแลกัน ไม่

                       เน้นกฎหมาย ถ้าหาแนวทางไม่ได้เดี๋ยวให้ไปศูนย์ด ารงธรรมอ าเภอ ให้ช่วยไกล่เกลี่ยส่วนมากจะได้ศูนย์
                       ด ารงธรรมซึ่งไม่ต้องไปขึ้นศาล ปลัดอ าเภอ มีเจ้าหน้าที่คอยให้ค าแนะน า บางทีก็จบตรงนั้นได้”(สมิง

                       รุ่งค า, สัมภาษณ์ 29 พฤษภาคม 2564)

                                        “พยายามที่จะให้ลงเอยกันด้วยดี  ผมเป็นห่วงเรื่องความผูกพัน ความเอื้ออาทรที่
                       จะอยู่ด้วยกันต่อไป การอยู่ การประกอบอาชีพ เวลาไปท าไร่ท านา เวลาตอนพักเที่ยงจะพักพร้อมกัน

                       ใครมีกระท่อมก็นั่งกระท่อม ไม่มีกระท่อมก็หาร่ม ๆ ไปนั่งกินข้าวเที่ยงมีอะไรก็แบ่งกันกินอย่างนี้มี
                       ความสุข บางทีไปท างานวันนี้เสร็จแล้วเห็นที่ข้างเคียงยังไม่เสร็จก็ช่วยกันไม่ว่าจะท าอะไรก็ช่วยกัน

                       กลับบ้านพร้อมกันถือว่าเป็นประเพณีที่ดีงามของพื้นที่ พยายามอธิบายเรื่องเก่า ๆ ของพ่อแม่ ปู่ย่าตา

                       ยาย ให้ฟัง พยายามจะหาชักแม่น้ าทั้งห้าให้เขายอมรับ แต่บางครั้งก็ได้ บางครั้งไม่ได้” (สมิง รุ่งค า,
                       สัมภาษณ์ 29 พฤษภาคม 2564)

                                         “บันทึกข้อตกลงต้องบันทึกทุกครั้ง ไม่บันทึกไม่ได้เลย อย่างน้อยเป็นเอกสาร
                       อ้างอิง ไม่ว่าเขาจะไปแจ้งความหรือขึ้นศาลอะไรต่าง ๆ จะลงบันทึกให้รัดกุมมากที่สุด ไม่ติดใจเอา
   127   128   129   130   131   132   133   134   135   136   137