Page 27 - kpi21386
P. 27
แนวคิดการวิจัยเชิงส�ารวจ
ประชากรได้อย่างไร จากแผนภาพข้างล่างนี้ในกล่องซ้ายล่างคือ วัตถุดิบที่ได้มาจากการส�ารวจหรือค�าตอบที่ผู้ถูก
สัมภาษณ์แต่ละคนให้กับนักวิจัย คุณค่าของข้อมูลนี้คือมันได้สร้างตัวบ่งชี้พรรณนาความที่ดีต่อลักษณะของผู้ตอบ
ซึ่งแสดงให้เห็นในกล่องซ้ายบน แต่การวิจัยเชิงส�ารวจไม่ได้พอใจแค่รู้ว่าลักษณะของผู้ตอบแบบสอบถามแต่ละ
คนเป็นอย่างไรในตัวของมันเองเท่านั้น นักวิจัยยังต้องสนใจ “ค่าสถิติ” ที่เชื่อมโยงค�าตอบเหล่านี้เพื่อสรุปลักษณะ
ของกลุ่มคนจากการศึกษาในครั้งนี้ ขั้นต่อไปการส�ารวจกลุ่มตัวอย่าง (Sample Survey) นั้นสามารถเชื่อมค�าตอบ
เหล่านี้ (ดูในกลุ่มควันที่อยู่ตรงกลาง) ให้เข้ากับการสรุปลักษณะโดยรวมของกลุ่มบุคคลภายในขั้นตอนการ
วิเคราะห์ทางสถิติเพื่อประดิษฐ์สร้างค่าสถิติที่อธิบายลักษณะของคนทุกคนในกลุ่มตัวอย่าง ควรสังเกตว่า ณ
จุดนี้เราก็ยังไปไม่ถึงเป้าหมายสูงสุดซึ่งกลุ่มตัวอย่างถูกหยิบเลือกขึ้นมา กล่าวคือ เรายังต้องการอธิบายลักษณะ
ทั่วไปของกลุ่มประชากรกลุ่มใหญ่ในอีกชั้นหนึ่งด้วย
Survey Inference ลักษณะของประชากร
แผนผังการอนุมานทางสถิติสองแบบ
ในการวิจัยเชิงส�ารวจ
อนุมานสถิติ
ลักษณะของ การค�านวณ ลักษณะของ
ผู้ตอบค�าถาม ทางสถิติ กลุ่มตัวอย่าง
อนุมานสถิติ
Source: Robert M. Groves et al., Survey Methodology,
ผู้ตอบค�าถาม 2009, p. 39
ในแบบค�าถาม
การอนุมานสองชั้นนี้เป็นจังหวะก้าวส�าคัญที่เป็นหัวใจของการวิจัยเชิงส�ารวจซึ่งท�าให้การวิจัย ส�ารวจ
มีลักษณะสองประการคือ ข้อมูลจากค�าตอบที่คนให้แก่นักวิจัยนั้นจะต้องอธิบายคุณลักษณะของผู้ตอบได้อย่าง
เที่ยงตรงชัดเจนและกลุ่มคนกลุ่มเล็กที่เป็นเซตย่อย (Subset) ซึ่งเข้าร่วมในการส�ารวจจะต้องมีสภาพ หรือลักษณะ
ที่คล้ายคลึงกันกับประชากรในกลุ่มใหญ่ เมื่อใดก็ตามที่เงื่อนไขทั้งสองประการนี้ไม่บังเกิดขึ้นสถิติจากการส�ารวจ
ก็จะตกอยู่ภายใต้ภาวะ “ความคลาดเคลื่อน” (Error) ซึ่งหมายถึงข้อมูลที่ได้มาในกระบวนการส�ารวจเกิดความ
เบี่ยงเบนจากสิ่งที่พึงปรารถนา ในอีกด้านหนึ่งปัญหาที่อาจจะเกิดตามมา คือ “ความคลาดเคลื่อนที่เกิดจากการวัด”
(Measurement Errors) หรือที่เรียกกันว่า “ความคลาดเคลื่อนในการสังเกตการณ์” (Error of Observations) ซึ่ง
เป็นปัญหาเกี่ยวกับความเบี่ยงเบนจากค�าตอบที่ได้มาจากแบบสอบถามในการวิจัยส�ารวจ นอกจากนี้ยังมีปัญหา
26

