Page 26 - kpi21386
P. 26
2. แนวคิดกำรวิจัยเชิงส�ำรวจ
นักวิจัยท�าการวิจัยมิใช่เพื่อการค้นพบสัจธรรมหรือความจริงที่จริงแท้ยิ่งกว่าคนอื่น แต่เพื่อหาวิธีการ
ค้นหาความน่าจะเป็นไปได้ที่จะเข้าใกล้สิ่งที่เรียกว่าความจริงโดยที่ตัวเองก็รู้ว่าเครื่องมือของตัวเองมีจุดอ่อนและ
มีโอกาสความคลาดเคลื่อนอยู่ด้วยมากน้อยเพียงใด สิ่งที่เราก�าลังท�านี้เรียกว่าระเบียบวิธีวิจัยเชิงส�ารวจ
การส�ารวจ (Survey) เป็นวิธีศึกษาอย่างเป็นระบบเพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่างหรือประชากร
เป้าหมายหรือสิ่งต่างๆ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อประดิษฐ์สร้าง “ตัวอธิบายในเชิงปริมาณ” (Quantitative Descriptors)
ต่อคุณลักษณะของประชากรทั้งหมดซึ่งสิ่งที่เราจะท�าการศึกษานั้นเป็นสมาชิกส่วนหนึ่งอยู่ด้วย ควรสังเกตที่
ค�าว่า “อย่างเป็นระบบ” ซึ่งเป็นการสะท้อนความจงใจและความมุ่งหมายที่จะแยกการส�ารวจออกจากวิธีการอื่นๆ
ในการเก็บข้อมูล ในค�าอธิบายข้างต้นยังมีการใช้ค�าว่า “กลุ่มตัวอย่าง” ด้วยเหตุที่ว่าบางครั้งการส�ารวจพยายาม
ที่จะวัดทุกสิ่งทุกอย่างหรือคนทุกคนในประชากรทั้งหมดและในบางครั้งก็เป็นการศึกษาเพียงแค่กลุ่มตัวอย่าง
กลุ่มหนึ่งเท่านั้น ในการส�ารวจนั้นจะต้องมีระเบียบวิธีวิจัยเชิงส�ารวจที่ดีด้วย
ระเบียบวิธีวิจัยเชิงส�ารวจ (Survey Methodology) คือการศึกษาวิธีการวิจัยเชิงส�ารวจชนิดต่างๆ
อันที่จริงแล้วระเบียบวิธีวิจัยนี้คือ การศึกษาถึงแหล่งที่มาของความคลาดเคลื่อนในการส�ารวจและดูวิธีว่าเราจะ
ท�าอย่างไรเพื่อให้ค่าตัวเลขที่ผลิตขึ้นมาจากการส�ารวจมีความตรง/ชัด/แน่นอนให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ ค�าว่า
“ความคลาดเคลื่อน (Error)” นี้จึงหมายความถึงความเบี่ยงเบนออกจากผลลัพธ์อันเป็นที่พึงปรารถนา
ความคลาดเคลื่อนในการวิจัยเชิงส�ารวจถูกใช้เรียกความเบี่ยงเบนออกจากค่าที่แท้จริงอันเป็นค่าที่ใช้ได้กับกลุ่ม
ประชากรที่ถูกศึกษา ในบางครั้งมีการใช้ค�าว่า “ความคลาดเคลื่อนในทางสถิติ (Statistical Error)” ด้วยเพื่อ
แยกความคลาดเคลื่อนในทางสถิติอย่างนี้กับความผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ (หรือสิ่งที่อาจจะเรียกว่า Simple
Mistakes)
การวิจัยเชิงส�ารวจเป็นสาขาวิชาที่ค่อนข้างจะเยาว์วัย แม้ว่าการส�ารวจปรากฏการณ์ทางสังคมเศรษฐกิจ
อย่างเป็นระบบจะมีรากลึกในประวัติศาสตร์อันยาวนาน แต่ว่าการส�ารวจในแบบใหม่ซึ่งอาศัยการจัดการเรื่อง
กรอบการสุ่มตัวอย่างในขอบเขตกว้างขวาง การสุ่มตัวอย่างโดยหลักทฤษฎีความน่าจะเป็นในทางสถิติ การใช้
แบบสอบถามอย่างมีโครงสร้างและการอ้างอิงหลักในทางสถิติไปยังกลุ่มประชากรทั้งหมดพร้อมทั้งการวัดค่า
ความคลาดเคลื่อนได้บังเกิดขึ้นในช่วงทศวรรษ 1940 นี้เอง
ซึ่งความหมายของระเบียบวิธีวิจัยตรงนี้ก็คือ ความพยายามที่จะเข้าใจว่าท�าไมความคลาดเคลื่อนจึง
บังเกิดขึ้นได้ในสถิติของการส�ารวจ ในจุดเริ่มต้นนั้นเราควรมาดูว่าการวิจัยส�ารวจสร้างสถิติเพื่อวิเคราะห์ลักษณะ
25

