Page 298 - kpi21298
P. 298

2) นอกจากการวิเคราะห์อัตราส่วนความตรงเชิงเนื้อหา หรือ CVR แล้ว
                     คณะผู้วิจัยจะท าการพิจารณาค่าเฉลี่ยระดับความสอดคล้องและความเหมาะสมของตัวชี้วัดร่วมด้วย ซี่ง

                     เกณฑ์ในการแปลความหมายระดับค่าเฉลี่ยความสอดคล้องและความเหมาะสมของตัวชี้วัดนั้น สามารถ

                     พิจารณาได้ดังแสดงในตารางที่ 3.3 ดังนี้


                     ตำรำงที่ 3.3 เกณฑ์ในการแปลผลระดับค่าเฉลี่ยความสอดคล้องและความเหมาะสมของร่างตัวชี้วัด

                        ระดับค่ำเฉลี่ย    เกณฑ์ในกำรแปลผลควำมหมำยระดับค่ำเฉลี่ย
                          0.00-0.49       ตัวชี้วัดนั้น ไม่มีคุณภาพในการน าไปใช้เลย

                          0.50-1.49       ตัวชี้วัดนั้น มีคุณภาพในการน าไปใช้ในระดับน้อยที่สุด

                          1.50-2.49       ตัวชี้วัดนั้น มีคุณภาพในการไปใช้ในระดับน้อย
                          2.50-3.49       ตัวชี้วัดนั้น มีคุณภาพในการน าไปใช้ในระดับปานกลาง

                          3.50-4.49       ตัวชี้วัดนั้น มีคุณภาพในการน าไปใช้ในระดับมาก

                          4.50-5.00       ตัวชี้วัดนั้น มีคุณภาพในการน าไปใช้ในระดับมากที่สุด


                                  โดยดัชนีตัวชี้วัดที่จะได้รับการประเมินว่ามีความเหมาะสมในการน าไปใช้เพื่อติดตาม
                     การน าหลักธรรมาภิบาลไปปฏิบัติขององค์กรในประเทศไทยนั้น จะต้องมีค่าเฉลี่ยระดับความสอดคล้อง

                     และความเหมาะสมของตัวชี้วัดโดยรวมในระดับมากขึ้นไป (Mean > 3.49) จึงจะได้รับการยอมรับว่ามี

                     ความเหมาะสมในการน าไปใช้เพื่อติดตามการน าหลักธรรมาภิบาลไปปฏิบัติขององค์กรในประเทศไทย
                     ต่อไป

                                  3.5.4 ข้อเสนอแนะเพิ่มเติมอื่น ๆ เกี่ยวกับความสอดคล้องและความเหมาะสมของ

                     ร่างตัวชี้วัด ค าอธิบายตัวชี้วัด และเกณฑ์การให้คะแนน/ประเมินตัวชี้วัด Platform การน าหลัก
                     ธรรมาภิบาลไปปฏิบัติขององค์กรในประเทศไทย คณะผู้วิจัยจะใช้การตีความ (Interpreting) และการ

                     จัดกลุ่มข้อความ (Text Grouping)


                              3.6 กำรตรวจสอบข้อมูล

                                การตรวจสอบข้อมูลที่ได้รับจากการวิจัยเชิงคุณภาพนี้ ผู้วิจัยด าเนินการตรวจสอบข้อมูล

                     ว่าข้อมูลที่ได้มามีความเพียงพอหรือไม่ โดยพิจารณาจากการอิ่มตัวของข้อมูล ข้อมูลที่ได้มาตอบค าถาม
                     ในการวิจัยได้หรือไม่ ในกรณีของข้อมูลไม่ตรงกันต้องตรวจสอบดูว่า ข้อมูลที่แท้จริงเป็นอย่างไร โดยใช้

                     วิธีการตรวจสอบสามเส้า (Triangulation) แบ่งเป็นการตรวจสอบสามเส้าด้านข้อมูล (Data

                     Triangulation) เพื่อพิสูจน์ความถูกต้องของข้อมูล ประกอบด้วยการตรวจสอบข้อมูล ดังนี้











                                                                    โครงการวิจัยพัฒนาฐานข้อมูลองค์ความรู้ด้านธรรมาภิบาล (Phase 2)   262
   293   294   295   296   297   298   299   300   301   302   303