Page 22 - kpi20350
P. 22

21


                                                         บทที่ 1



                            ปฐมบทพรรคการเมืองไทยในยุคแห่งการปฏิรูปและปรองดอง

                       ประวัติศาสตร์การเมืองร่วมสมัยของประเทศไทยที่ผ่านมาแต่ละรัฐบาลที่อยู่ในอ านาจมีความพยายาม

               ที่จะแก้ไขปัญหาและหาทางออกของวิกฤตทางการเมือง โดยมีนโยบายต่าง ๆ เพื่อการแก้ไขและหาทางสร้าง

               ความปรองดองเพื่อคนทั้งประเทศ เช่น รัฐบาลของ นายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ มีการแต่งตั้ง
               คณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ (คอป.) และรัฐบาลของ

               นายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้ตั้งสภาปฏิรูปการเมือง โดย มีตัวแทนหลายฝ่ายหารือเพื่อหาทางออกใน
               การปฏิรูปร่วมกัน นอกจากนี้ทุกรัฐบาลยังมีความพยายามสร้างกลไกเพื่อลดความขัดแย้งและรุนแรงในรูปแบบ

               ต่าง ๆ เช่น กลไกทางการปฏิรูปกฎหมาย กลไกการ เยียวยาเหยื่อผู้สูญเสียจากเหตุการณ์การชุมนุมทาง

               การเมือง ปัจจุบันรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาได้ตั้งคณะกรรมการบริหารราชการแผ่นดินตามกรอบการ
               ปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคี ปรองดอง โดยมีชื่อย่อว่า ป.ย.ป. โดยมี

               นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน และรองนายกรัฐมนตรี รับมนตรีประจ าส านักนายก รัฐมนตรีว่าการ
               กระทรวงการคลัง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นกรรมการโดยก าหนดให้มีคณะกรรมการ

               พิจารณากลั่นกรองเรื่องเสนอต่อ ป.ย.ป.  จ านวน 4 คณะ ซึ่งหนึ่งใน 4 คณะนี้ คือ คณะกรรมการเตรียมการ

               เพื่อการสร้างความสามัคคีปรองดอง มีผู้บริหารสถาบันพระปกเกล้าอยู่ในคณะกรรมการและที่ปรึกษาถึง 3
               ท่าน ด้วยกัน  ได้แก่ ศาสตราจารย์วุฒิสาร ตันไชย ( เลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า ), รองศาสตราจารย์ ดร.

               ปณิธาน วัฒนายากร ( ผู้อ านวยการวิทยาลัยการเมืองการปกครองสถาบันพระปกเกล้า  ) และ พลเอก เอกชัย
               ศรีวิลาศ  ( ผู้อ านวยการส านักสันติวิธีและธรรมาภิบาล สถาบันพระปกเกล้า ) ซึ่งจะเห็นถึงความพยายามของ

               รัฐบาลในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองด้วยการปฏิรูปอย่างเป็นรูปธรรม โดยการสร้างองค์คณะ

               เพื่อขับเคลื่อนงานปฏิรูปเพื่อการปรองดองอย่างยั่งยืน

                       อย่างไรก็ตามการลดวงจรความขัดแย้งทางการเมืองที่ถูกผลิตซ้ าขึ้นมาจนเป็นวัฒนธรรมการต่อสู้บน

               ถนนของประชาชนเพื่อเรียกร้องความถูกต้องใน สิ่งที่แต่ละฝ่ายยึดมั่น ซึ่งปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นนี้เป็นวงจร

               เกือบ 15 ปีมาแล้ว นับตั้งแต่การรัฐประหาร พ.ศ. 2549  จ าเป็นต้องศึกษาถึงรากเหง้าวัฒนธรรมของกาสร้าง
               ความปรองดองให้เกิดขึ้น หมายถึงกระบวนการส ารวจทุนทางสันติวัฒนธรรม ( culture of peace )

               โดยเฉพาะอย่างยิ่งสถาบันทางการเมืองหนึ่งที่มีความส าคัญ อย่างยิ่งในกระบวนการทางการเมืองและความ
               ขัดแย้งทางการเมือง ( political conflict )  ได้แก่ สถาบันพรรคการเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มพรรค

               การเมืองที่มีความเคลื่อนไหวอย่างเข้มข้น และเป็นตัวแปรส าคัญในการเปลี่ยนผ่านการเมืองไทย โดยเฉพาะใน

               ยุคหลังที่กลุ่มพรรคการเมืองบางพรรคมีความพยายามที่จะจัดการกับสถานการณ์ทางการเมืองและมีความ
               พยายามรวมกลุ่มก้อนของพลังประชาชนเพื่อการรวมตัวแสดงพลังในการคานอ านาจเพื่อให้เกิดวิถีทางที่

               เปลี่ยนแปลงไปของการเมืองไทย ซึ่งขบวนการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองที่เกิดขึ้นมักจะเกิดจากการขับเคลื่อน
               ของกลุ่มสถาบันทางการเมือง แน่นอน สถาบันพรรคการเมืองเป็นหนึ่งในสถาบันทางการเมืองที่มีส่วน

               ขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงประชาธิปไตยไทยอยู่เสมอมา
   17   18   19   20   21   22   23   24   25   26   27