Page 291 - kpi19912
P. 291
รับรองอนุสัญญาองค์การแรงงานระหวํางประเทศ ฉบับที่ 188 ( C188) และหนังสือขอความ
อนุเคราะห์แก๎ไขปัญหาประมง โดยมีนายกมล ไกรวัตนุสสรณ์ อุปนายกสมาคมการประมงสมุทรสาคร
กับนายบรรพต อินทร์คชสาร ประธานชมรมอวนล๎อม เป็นตัวแทนของพี่น๎องชาวประมงจังหวัด
สมุทรสาคร ในการยื่นหนังสือทั้ง 2 ฉบับถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ผํานทางนาย
ประภัสสร์ มาลากาญจน์ ผู๎วําราชการจังหวัดสมุทรสาคร และการยื่นหนังสือคัดค๎านการที่รัฐบาลจะ
ไปให๎สัตยาบันเพื่อรับรองอนุสัญญาองค์การแรงงานระหวํางประเทศ ฉบับที่ 188 ( C188) กับหนังสือ
ขอความอนุเคราะห์แก๎ไขปัญหาประมง ยังเป็นการยื่นพร๎อมกันของพี่น๎องชาวประมงในพื้นที่ 22
จังหวัดชายทะเลทั่วประเทศอีกด๎วย
ส าหรับการออกมาคัดค๎านรัฐบาลที่จะไปให๎สัตยาบันเพื่อรับรองอนุสัญญาองค์การแรงงาน
ระหวํางประเทศ ฉบับที่ 188 ( C188) นั้น เนื่องด๎วยทางสมาคมการประมงสมุทรสาคร และสมาคม
การประมงทั่วประเทศทั้ง 22 จังหวัดชายทะเลพิจารณาแล๎วเห็นวํา ถ๎ารัฐบาลไปรํวมให๎สัตยาบันเพื่อ
รับรองอนุสัญญาองค์การแรงงานระหวํางประเทศ ฉบับที่ 188 จะกํอให๎เกิดความเสียหาย และสํงผล
กระทบอยํางรุนแรงตํอชาวประมงไทยอยูํหลายประการ จะท าให๎เกิดปัญหาทับถมเพิ่มขึ้นและท าลาย
อุตสาหกรรมประมงทะเลของไทยทั้งระบบ ตลอดจนการจ๎างแรงงานภาคการประมงของประเทศไทย
ด๎วยเชํนกัน ดังนั้นสมาคมการประมงสมุทรสาคร และสมาชิกชาวประมง จึงขอคัดค๎านการที่รัฐบาลจะ
ไปลงนามให๎สัตยาบัน อนุสัญญาองค์การแรงงานระหวํางประเทศฉบับที่ 188
สํวนหนังสือขอความอนุเคราะห์แก๎ไขปัญหาประมงนั้น สืบเนื่องจากการที่รัฐบาลไทยได๎มีการ
ด าเนินการแก๎ไขปัญหาตํางๆ ด๎านการประมงอยํางเรํงดํวน ทั้งการออกกฎหมาย และการให๎อ านาจ
เจ๎าหน๎าที่ของรัฐอยํางเบ็ดเสร็จในการขับเคลื่อนมาตรการตํางๆ บังคับใช๎กฎหมายอยํางเข๎มงวด
เพื่อให๎เป็นที่ยอมรับของสหภาพยุโรป (EU) ในการปลดล็อคการให๎ใบเหลือง เนื่องจากประเทศไทยถูก
ระบุวําเป็นประเทศที่สาม ที่ไมํให๎ความรํวมมือในการตํอต๎านการท าประมงที่ผิดกฎหมาย ขาดการ
รายงาน และไร๎การควบคุม (IUU) พร๎อมทั้งแนะน าให๎ประเทศไทย ด าเนินการปรับปรุงกฎหมาย
กฎระเบียบ และการจัดการด๎านการประมงของไทยให๎สอดคล๎องกับกฎระเบียบของสหภาพยุโรป
จนสร๎างปัญหาความเดือดร๎อน ขาดความเป็นธรรมในการพิจารณากฎหมาย สํงผลกระทบตํอ
เศรษฐกิจ สังคม และประเทศชาติอยํางรวดเร็วและรุนแรง และสํงผลกระทบโดยตรงตํอชาวประมง
โดยเฉพาะชาวประมงที่ประกอบอาชีพโดยสุจริตได๎รับความเดือดร๎อนเป็นวงกว๎าง หลายครอบครัว
ประสบกับปัญหาที่ไมํคาดคิดมากํอน เชํน ผู๎น ามีภาระหนี้สิน บุตรหลานต๎องพักการศึกษา กิจการ
ล๎มละลาย ถูกด าเนินคดีโดยไมํได๎กระท าความผิด เป็นต๎น
ทั้งนี้ ทางสมาคมการประมงสมุทรสาคร จึงต๎องการให๎นายกรัฐมนตรีน าข๎อร๎องเรียนของ
ชาวประมงไปสูํการแก๎ไขใน 7 ด๎าน คือ 1.เรื่องการขาดแคลนแรงงาน ในภาคประมง ได๎มีการเสนอ
ขอให๎เปิดให๎คนตํางด๎าวที่อยูํในราชอาณาจักรไทยอยํางผิดกฎหมาย เปิดให๎บุคคลที่ไมํมีสถานะทาง
ทะเบียน (ไร๎สัญชาติ ถือบัตรหมายเลขศูนย์) ท าเอกสารซีบุ๏คได๎ เพื่อท างานในเรือประมง ซึ่งมีความ
ต๎องการแรงงาน จ านวน 50,000 คน และให๎มาตรการนี้เปิดใช๎ตลอดระยะเวลา 2 ปี, 2. รัฐบาลกับ
การซื้อเรือคืน ขอให๎รัฐบาลด าเนินการจัดท าโครงการน าเรือประมงออกนอกระบบ เพื่อการจัดการ
ทรัพยากรประมงทะเลที่ยั่งยืน หรือซื้อเรือคืนตามแผนบริหารจัดการประมงทะเล ด าเนินการเรื่องการ
ซื้อเรือคืนโดยเร็วที่สุด, 3.ขอให๎กรมสวัสดิการและคุ๎มครองแรงงาน ด าเนินการปรับปรุงแก๎ไข กฎ และ
ระเบียบตํางๆ ที่ออกมาบังคับใช๎กับผู๎ประกอบการเรือประมงให๎มีความเสมอ ทัดเทียมกับอาชีพอื่นๆ,
4.ในสํวนของกรมเจ๎าทําขอให๎ออกประกาศกฎข๎อบังคับการตรวจเรือฯ ตามที่ได๎มีการปรับปรุงแก๎ไข
แล๎ว เมื่อคราวประชุมวันที่ 26 เมษายน 2561 ด๎วย เพื่อให๎ชาวประมงได๎ออกไปท าการประมงได๎อยําง
285