Page 50 - kpi19845

การที่ผู้หญิงเข้ามามีส่วนร่วมในการ
จัดการความขัดแย้งเนื่องจากถูกเลือก 17.3 24.3 27.8 22.2 8.4 ปาน
ปฏิบัติในการเข้าถึงโครงสร้างอ านาจ (171) (241) (275) (220) (83) 3.20 1.206 กลาง
ของสังคม
การที่ผู้หญิงเข้าไปมีส่วนร่วมในการ
จัดการความขัดแย้งเนื่องมาจากการถูก
กดขี่ทางวัฒนธรรม ชาติพันธุ์และคุณค่า 19.1 23.3 24.3 21.9 11.4 3.17 1.283 ปาน
เช่น การดูถูกความเป็นหญิง การดูถูก (189) (230) (240) (217) (113) กลาง
ทางชาติพันธุ์ และการดูถูกทาง
วัฒนธรรม
ปัจจัยแห่งความส าเร็จของผู้หญิงที่ท าให้
การจัดการความขัดแย้งส าเร็จ ได้แก่ 20.6 26.9 20.4 21.7 10.4 ปาน
ศักยภาพของผู้หญิงในการจัดการความ (204) (266) (202) (215) (103) 3.26 1.289 กลาง
ขัดแย้ง
ปัจจัยแห่งความส าเร็จของผู้หญิงที่ท าให้
การจัดการความขัดแย้งส าเร็จ ได้แก่ 24.4 24.7 18.0 20.1 12.8 3.28 1.364 ปาน
การท างานประสานกันเป็นเครือข่าย (240) (243) (177) (198) (126) กลาง
ชาย
ปาน
ค่าเฉลี่ยรวมทั้งหมด 3.21 1.283
กลาง

4.6 ข้อจ ากัดของผู้หญิงในภาพรวมทั่วประเทศในการจัดการความขัดแย้ง
จากข้อมูลในแบบสอบถาม พบว่า ปัจจัยแห่งความล้มเหลวของผู้หญิงที่ท าให้การจัดการความขัดแย้ง

ในภาพรวม มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับ มาก (3.22) และเมื่อจ าแนกเป็นรายข้อ พบว่า ทุกข้อมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับ
มากซึ่งสามารถเรียงล าดับคะแนนจากน้อยไปหามากได้ดังนี้ ข้อที่ 8.4 อุปสรรคของผู้หญิงที่เข้ามาท างานด้าน

การจัดการความขัดแย้งคือ ผู้หญิงมักจะละเลยประเด็นช่องทางการเมืองที่จะท าให้ความขัดแย้งนั้นสลายไปได้

(3.73) ข้อที่ 8.2 การที่ผู้หญิงเข้ามาจัดการความขัดแย้งในสังคมมักจะถูกเลือกปฏิบัติในการเข้าถึงโครงสร้าง
อ านาจการตัดสินใจอย่างแท้จริง (3.66) และข้อที่ 8.3 อุปสรรคของผู้หญิงที่ท าให้การจัดการความขัดแย้งส าเร็จ ได้แก่

ศักยภาพของผู้หญิงในการจัดการความขัดแย้งเช่น ความรู้ ความสามารถ (3.62) สุดท้ายคือข้อที่ 8.1 ปัจจุบัน
การที่ผู้หญิงเข้ามามีส่วนร่วมในสันติภาพหรือการจัดการความขัดแย้ง เป็นไปได้น้อยเนื่องจากภาระงานในบ้าน

และนอกบ้านท าให้เธอไม่สามารถท างานเพื่อสังคมได้ (3.55)

50