Page 168 - kpi19164
P. 168
และรวมกันขายผลผลิตของสมาชิกเพื่อจะได้ราคาที่สูงขึ้น มีสามารถสร้างอ านาจต่อรองทางการตลาด
ให้กับสมาชิกได้มากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการด าเนินกิจการด้านการตลาดแทนสมาชิก มีการจัดตั้งตลาด
กลางเพื่อตัดปัญหาพ่อค้าคนกลางซึ่งเป็นการพัฒนาองค์กรท้องถิ่นให้เข้มแข็ง และสามารถพึ่งตนเองได้ใน
ระยะยาวและยั่งยืน
ปัจจุบันประเทศไทยใช้พระราชบัญญัติสหกรณ์ พ.ศ. 2542 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2553
ได้ก าหนดสหกรณ์ไว้ 7 ประเภท คือ สหกรณ์การเกษตร สหกรณ์นิคม สหกรณ์ร้านค้า สหกรณ์บริการ
สหกรณ์ออมทรัพย์ สหกรณ์ประมง และสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน จากพัฒนาการสหกรณ์ของไทย จะเห็นได้
ว่าพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 ได้ทรงวางรากฐานงานด้านสหกรณ์จนท าให้เกิดการ
พัฒนามาจนถึงปัจจุบัน สามารถช่วยเหลือกลุ่มเกษตรกร แรงงาน และชุมชน ได้อย่างกว้างขวาง
โดยเฉพาะการสร้างความเป็นธรรมทางสังคมจากการถูกเอารัดเอาเปรียบจากนายทุน การแก้ไขปัญหา
ความยากจน การช่วยเหลือด้านสวัสดิการและคุณภาพชีวิตของประชาชน ผลจากการด าเนินงานของ
สหกรณ์ ประมาณ 102 ปี (พ.ศ. 2459 – 2560) ประเทศไทยมีจ านวนสหกรณ์ทั้งสิ้น (รวมชุมนุม) 8,194
แห่ง และมีจ านวนสมาชิก 11,574,271 คน และเงินทุน จ านวน 2,567,547.97 ล้านบาท ส่วนใหญ่จะ
เป็นสหกรณ์การเกษตรซึ่งจัดได้ว่าเป็นองค์กรที่เป็นกลไกส าคัญของรัฐในการสร้างมูลค่าเศรษฐกิจและการ
พัฒนาประเทศ
ปัจจุบันสหกรณ์จะด าเนินธุรกิจ 6 ประเภท ได้แก่ รับฝากเงิน ให้เงินกู้ จัดหาสินค้ามาจ าหน่าย
แปรรูปผลผลิต รวบรวมผลผลิต ธุรกิจบริการ ในยุคแรกๆ ของการจัดตั้งสหกรณ์ในประเทศไทย การ
ด าเนินธุรกิจของสหกรณ์แต่ละประเภทจะแตกต่างกันตามวัตถุประสงค์ของสหกรณ์ แต่เนื่องจากสภาพ
ปัญหาการด าเนินงานของสหกรณ์ที่ต้องพึ่งตัวเองท าให้มีสหกรณ์ในแต่ละประเภทท าธุรกิจที่ไม่แตกต่าง
กันในปัจจุบัน ประกอบกับขบวนการสหกรณ์ที่เป็นอยู่ซึ่งมีทั้ง “สหกรณ์แท้” และ “สหกรณ์เทียม” โดย
พบว่าสมาชิกขาดความภักดีที่จะสนับสนุนและอุดหนุนธุรกิจสหกรณ์ มักจะเป็นลักษณะของการเป็นผู้
ร่วมใช้ฟรี (Free Rider) ท าให้เกิดความเสื่อมศรัทธาต่อขบวนการสหกรณ์ และเมื่อศึกษาในรายละเอียด
จะพบว่าสหกรณ์แท้ที่สามารถพึ่งตนเองมีความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ในประเทศไทยยังมีจ านวนไม่มาก
โดยพิจารณาจากการบริหารเงินภายในสหกรณ์ พบว่าสหกรณ์จ านวนมาก มีเงินทุนหมุนเวียนซึ่งเกิดจาก
การกู้ธนาคารเพื่อการเกษตรและน ามาให้สมาชิกกู้อีกต่อ เพื่อหวังก าไรมาใช้ในการบริหารจัดการสหกรณ์
และเมื่อพิจารณาธุรกิจที่ด าเนินการ ที่สามารถสร้างผลิตภัณฑ์หรือช่วยเหลือสมาชิก เช่น การแปรรูป
ผลผลิต รวบรวมผลผลิต ไม่เกิดการขยายตัวของเศรษฐกิจในกลุ่มสมาชิก หรือไม่มีการด าเนินการ
กิจกรรมอย่างแท้จริง
157