Page 261 - kpi18630
P. 261
ถึงจะตีเด็กดึกๆ ดื่นๆ ไม่เกรงใจชาวบ้านอย่างนี้” สินีบ่นอย่างเหนื่อยหน่าย ก่อนที่
สามีจะตั้งข้อสังเกตบ้าง “รู้สึกว่าคืนนี้ เสียงเด็กร้องจะดังกว่าคืนก่อนๆ นะ” สินี
ยอมรับว่ามันเป็นเช่นนั้นจริงๆ
“แม่ว่า เราโทร.แจ้งต�ารวจดีไหม เผื่อเขาจะท�าทารุณเด็ก”
“แต่นั่นมัน ลูกเขานะพ่อ เอ! หรือจะเป็นพ่อเลี้ยงกันแน่ ถ้าใช่นะ ก็น่า
สงสารเด็กมากเลย”
หลังจากนั้น เสียงเด็กร้องก็เงียบหายไปกับความมืดของรัตติกาล ก่อนที่ทั้งคู่จะล้ม
ตัวลงนอนเพราะความง่วง
วันต่อมา หลังเลิกงานแล้ว เอกพลไปรับลูกที่โรงเรียนประถมใกล้บ้านกลับ
ด้วยกัน ขณะขับรถจะเข้าบ้านนั้น เขาเหลือบไปเห็นป้าแม่ครัวข้างบ้านก�าลังจะออก
ไปซื้อของ เขารีบลงจากรถเพื่อจะสอบถามเรื่องเมื่อคืน เมื่อส่งเสียงเรียก ยังไม่ทัน
ไต่ถามเรื่องราว ป้าคนรับใช้รีบหลบฉากจากไปอย่างรวดเร็วราวสายฟ้าแลบทันที
เขากลับเข้าบ้านนั่งรอที่ม้าหินตรงชานหน้าบ้าน เฝ้ารอให้ป้าคนนั้นกลับ
มา หวังจะคาดคั้นเรื่องดังกล่าว เสียงลูกบอลเด้งดังกระทบพื้นติดๆ กันรัวๆ หลาย
ที เขามองไปที่ถนนหน้าบ้าน จึงเห็นเด็กคนหนึ่งก�าลังเล่นบอลอยู่ตามล�าพัง เขารู้ได้
ทันทีว่า น่าจะเป็นลูกชายคนข้างบ้านนี่เอง จากการส�ารวจร่างกายเด็ก ก็ไม่พบร่อง
รอยฟกช�้าหรือบาดแผลใดๆ ที่บอกได้ว่าถูกเฆี่ยนตีแต่อย่างใด กลับเห็นแต่ความ
สะอาดสะอ้านของผิวพรรณและเสื้อผ้าที่สวมใส่ แสดงให้เห็นถึงความทะนุถนอม
และใส่ใจของพ่อแม่ เขารีบรุดออกนอกรั้วบ้านเพื่อสอบถามอะไรบางอย่าง เมื่อเข้าไป
ประชิดตัว เด็กชายชะงัก หยุดเล่นบอล หันมามองหน้าเขา เมื่อเขาตะล่อมถามเรื่อง
เด็กร้องไห้เมื่อคืนนี้ เด็กชายมองหน้าเขาอย่างลังเล พลางเดินหนีจะหลบเข้าบ้าน
และหันมาบอกว่า “พ่อไม่ให้คุยกับคนแปลกหน้า” ขณะมีเสียงเรียกจากในรั้วบ้าน
นั้น เด็กชายตัวโตกว่าออกมาคว้าตัวน้องกลับเข้าบ้านไปอย่างมีพิรุธ ก่อนเสียงงับ
ประตูรั้วดังขึ้น เขาทันเห็นเด็กตัวโตก็มีใบหน้าเกลี้ยงเกลา ตามล�าตัวไม่มีร่องรอย
บาดแผลใดๆ ให้เห็นเช่นกัน เป็นที่น่าฉงนใจยิ่ง พลางครุ่นคิดเท่าไรก็นึกไม่ออกว่า
เสียงร้องไห้ยามวิกาล เป็นเสียงใครกันแน่
260 ÇÃó¡ÃÃÁàÃ×èͧÊÑé¹ “¾ÅàÁ×ͧ¡íÒÅѧä·Â”
01-288 Power of Thai People_Edit.indd 260 21/3/2561 BE 10:00