Page 196 - kpi17073
P. 196

การประชุมวิชาการ
                                                                                         สถาบันพระปกเกล้า ครั้งที่ 16   195


                                              อภิรัฐมนตรีซึ่งมีอำนาจการเมือง (Political Powers) สามด้านคือ
                                              อำนาจกึ่งนิติบัญญัติ (Quasi-legislative Powers) อำนาจกึ่งบริหาร

                                              (Quasi-executive Powers) และอำนาจกึ่งตุลาการ (Quasi-judicial
                                              Powers) สามารถใช้อำนาจไกล่เกลี่ย (Mediation Authority) ในการ
                                              แก้ไขปัญหาวิกฤตการณ์ทางการเมืองที่เกิดจากความขัดแย้งระหว่าง

                                              องค์กรนิติบัญญัติ องค์กรบริหาร และองค์กรตุลาการ หรือระหว่าง
                                              องค์กรรัฐบาลส่วนกลางกับองค์กรการปกครองท้องถิ่น รวมทั้งการใช้

                                              อำนาจตุลาการภิวัตน์ (Judicial Review หรือ Judicial Activism)
                                              ร่วมกับศาลรัฐธรรมนูญเพื่อทำหน้าที่เป็นองค์กรพิทักษ์รัฐธรรมนูญ
                                              (Guardian of the Constitution) และระบอบประชาธิปไตยอันมี

                                              พระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข รวมทั้งแก้ไขป้องกันและขจัดปัญหา
                                              เผด็จการรัฐประหาร (Coup d’état Dictators) และปัญหาเผด็จการ

                                              รัฐสภาเสียงข้างมาก (Majoritarian Parliamentary Dictatorship) หรือ
                                              ระบอบทรราชเสียงข้างมาก (Tyranny of Majority) ในรัฐสภาอันเป็น
                                              วงจรอุบาทว์ของการเมืองไทยได้


                            ้    ละ ้  ้       ร สร้า   นา รั  นกร บ  นา       ป

                              4.3.1  ข้อดี คือ โครงสร้างนี้มีการแบ่งแยกอำนาจเป็น 4 ฝ่ายอย่างชัดเจนเพื่อให้มีการ

                                    ถ่วงดุลและคานอำนาจรวมทั้งตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐ โดยมิให้มีการควบรวม
                                    อำนาจรัฐ (Fusion of Powers) ซึ่งก่อให้เกิดระบบเผด็จการรัฐสภาเสียงข้างมาก

                                    โดยมีจุดเด่นที่การแบ่งแยกอำนาจจตุอธิปัตย์และนวัตกรรมสถาปนาสภา
                                    อภิรัฐมนตรีให้มีอำนาจรัฎฐาภิบาล (Sovereign Governance) โดยเป็นผู้ถือ
                                    ดุลอำนาจที่มีบทบาทเป็นผู้พิทักษ์รัฐธรรมนูญและระบอบประชาธิปไตยตามหลัก

                                    นิติธรรมทั้งในภาวะปกติและภาวะวิกฤติของแผ่นดินที่จะทำให้ระบบการเมืองไทย
                                    เกิดดุลยภาพและเสถียรภาพในการตรวจสอบการใช้อำนาจโดยมิชอบเพื่อป้องกัน

                                    แก้ไขปัญหาการทุจริตคอร์รัปชัน

                             4.3.2  ข้อด้อย คือ โครงสร้างนี้เป็นนวัตกรรมใหม่ที่ยังไม่เคยมีการใช้ในต่างประเทศโดย

                                    เฉพาะประเทศไทย จึงไม่มีประสบการณ์ของความสำเร็จหรือข้อบกพร่องให้เห็นเชิง
                                    ประจักษ์และต้องอาศัยเวลานานพอสมควรในการรณรงค์เผยแพร่ให้มีความรู้ความ

                                    เข้าใจอย่างถ่องแท้เพื่อป้องกันมิให้ผู้ที่สูญเสียผลประโยชน์ที่ได้รับจากโครงสร้าง
                                    อำนาจเก่าคัดค้าน ต่อต้าน และขัดขวางการนำไปใช้ปฏิรูปประเทศไทย ทั้งนี้
                                    โดยต้องมีการวิจัยพัฒนากลไกการปฏิรูปโครงสร้างอำนาจให้มีความสมบูรณ์

                                    ในกรอบร่างรัฐธรรมนูญฉบับธรรมาธิปไตยและร่างกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ
                                    รวมทั้งการวิจัยประเมินผลควบคู่กันไปในระหว่างที่มีการนำนวัตกรรมนี้ไปปฏิบัติ

                                    จริงในสังคมไทย                                                                       การประชุมกลุ่มย่อยที่ 1
   191   192   193   194   195   196   197   198   199   200   201