Page 184 - kpi17073
P. 184
การประชุมวิชาการ
สถาบันพระปกเกล้า ครั้งที่ 16 183
จากแผนภูมิที่ 1 ข้างต้น สถาบันการเมืองถือกำเนิดจากสถาบันแห่งชาติ (National
Institution) คือ ชาติ (Nation) ศาสนา (Religion) และพระมหากษัตริย์
(Monarchy) ซึ่งเป็นที่มาของอำนาจอธิปไตย (Sovereignty) โดยประเทศไทยเป็น
ประชารัฐที่ปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
อำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทย (ประชาธิปไตย-Democracy) ร่วมกับพระมหา-
กษัตริย์ (ราชาธิปไตย-Royal Governance) ตามหลักราชประชาสมาสัย ประธานสภา
อภิรัฐมนตรีและประธานศาลยุติธรรมสูงสุดมาการเลือกตั้งโดยอ้อมจากประชาชน สภา
นิติบัญญัติแห่งชาติประกอบด้วยสมาชิกวุฒิสภาและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร รวมทั้ง
นายกรัฐมนตรีซึ่งเป็นหัวหน้ารัฐบาลมาจากการเลือกตั้งโดยตรง การปกครองตนเอง
ระดับท้องถิ่นในระบบเทศบาลตามหลักประชาภิบาล (People Governance) พระมหา-
กษัตริย์ทรงเป็นธรรมราชาที่ปกเกล้าปวงชนชาวไทยในระบอบประชาธิปไตยตามหลัก
ราชาภิบาล (Royal Governance หรือ The King reigns, not rules) และหลัก
ทศพิธราชธรรม โดยทรงเป็นพุทธมามกะและทรงเป็นอัครศาสนูปถัมภกทุกศาสนา
ซึ่งพระพุทธศาสนาและศาสนาอื่นถือเป็นบ่อเกิดของธรรมาธิปไตย (Dhrammacracy)
และหลักธรรมาภิบาล (Good Governance) ทั้งนี้ เพื่อให้ประเทศไทยมีการปกครอง
ระบอบประชาธิปไตยโดยนิติรัฐ ซึ่งการปฏิบัติหน้าที่ของสภาอภิรัฐมนตรี สภา
นิติบัญญัติแห่งชาติ (วุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎร) รัฐบาล (นายกรัฐมนตรีและ
คณะรัฐมนตรี) และศาลทุกศาล รวมทั้งองค์กรตามรัฐธรรมนูญและหน่วยงานของรัฐ
ต้องยึดถือและเป็นไปตามหลักนิติธรรม (Rule of Law)
3.3.1) สภาอภิรัฐมนตรี (Supreme Council of State) เป็นสภาการแผ่นดินสูงสุด
แห่งรัฐ โดยถือเป็นสถาบันการเมืองสูงสุดที่ใช้อำนาจรัฎฐาภิบาล (Sovereign
Governance) ในการตรวจสอบถ่วงดุลการใช้อำนาจนิติบัญญัติ อำนาจบริหาร
และอำนาจตุลาการ เพื่อพิทักษ์รัฐธรรมนูญและระบอบประชาธิปไตยอันมี
พระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขภายใต้การปกครองโดยนิติรัฐตามหลัก
นิติธรรม ซึ่งพระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้งสมาชิกอภิรัฐมนตรีจำนวนทั้งสิ้น
45 คนที่มาจากการเลือกตั้งทางอ้อม ซึ่งเป็นผู้แทนโดยตำแหน่งจากหัวหน้า
องค์กรนิติบัญญัติ องค์กรบริหาร องค์กรตุลาการ และองค์กรตามรัฐธรรมนูญ
ที่มาจากการเลือกตั้งโดยตรงและ/หรือโดยอ้อมจากประชาชนรวมทั้งสิ้น
23 คน และผู้แทนโดยตำแหน่งจากการบริหารราชการแผ่นดินส่วนภูมิภาคและ
ส่วนท้องถิ่น รวมทั้งสิ้น 22 คน ประกอบด้วย ผู้ตรวจราชการแผ่นดินภูมิภาค
(Regional Administration Inspectors) จำนวน 7 คน และผู้ว่าราชการ
มณฑลเทศาภิบาล (Governors of Provincial Municipality) อีกจำนวน
15 คนที่มาจากการเลือกตั้งโดยตรง
ประธานสภาอภิรัฐมนตรี (President of the Supreme Council of State)
เป็นหัวหน้าอำนาจรัฎฐาภิบาล (Head of Sovereign Governance) ซึ่งได้รับ การประชุมกลุ่มย่อยที่ 1
เลือกตั้งจากสมาชิกอภิรัฐมนตรีจำนวนเท่าที่มีอยู่ด้วยคะแนนเสียงข้างมาก