Page 175 - kpi15695
P. 175
คํ า พิ พ า ก ษ า น่ า รู้
ค ดี ป ก ค ร อ ง ข อ ง อ ง ค์ ก ร ป ก ค ร อ ง ส่ ว น ท้ อ ง ถิ่ น
เสียหายคดีแพ่งในส่วนยอดเงิน ๓๒,๘๐๐ บาท ได้เนื่องจากเป็นการ
ฟ้องซ้ำ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสิงห์บุรี จึงมีคำสั่งลงวันที่ ๑๕
ธันวาคม ๒๕๔๒ แต่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง เพื่อหาตัวผู้ต้อง
รับผิดชดใช้เงินจำนวน ๓๒,๘๐๐ บาท ที่ไม่สามารถดำเนินคดีแพ่งกับ
ผู้กระทำการทุจริตได้ และได้มีการเรียกให้นางพรพิศชี้แจง ต่อมา
องค์การบริหารส่วนจังหวัดสิงห์บุรีมีหนังสือแจ้งให้นางพรพิศ ชดใช้เงิน
จำนวน ๓๒,๘๐๐ บาท นางพรพิศจึงได้ไปยื่นฟ้องคดีต่อศาลปกครอง
ศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาคดีหมายเลขแดงที่ อ.๑๖๑/๒๕๕๓
ว่า นางพรพิศได้เสนอให้องค์การบริหารส่วนจังหวัดสิงห์บุรี แต่งตั้ง
คณะกรรมการสอบสวนหาผู้รับผิดทางแพ่งสามกรณีแรกครบถ้วนตาม
หนังสือของสำนักงาน ก.จ. กรรมการปกครองแล้ว ส่วนอีก ๕ ฎีกา
จำนวนเงิน ๓๒,๘๐๐ บาท ที่ไม่มีสิ่งของให้ตรวจสอบนั้นไม่ปรากฏ
รายละเอียดในหนังสือของสำนักงาน ก.จ. กรรมการปกครองและไม่มี
หลักฐานยืนยันว่านางพรพิศทราบว่าไม่มีวัสดุให้ตรวจสอบตามฎีกา
อื่นๆ อีก และเมื่อสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินมีหนังสือให้ดำเนินการ
หาผู้รับผิดทางแพ่งกรณีไม่มีวัสดุให้ตรวจสอบ จากฎีกาจัดซื้อรวม
๖ ฎีกา นางพรพิศได้ลงชื่อต่อท้ายผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรีที่
มอบหมายให้ปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดดำเนินการโดยมอบหมาย
ให้หมวดบริหารงานทั่วไปดำเนินการเช่นเดียวกับการปฏิบัติหน้าที่ของ
เลขานุการจังหวัดคนอื่น ๆ อันเป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ และการ
แต่งตั้งกรรมกรสอบข้อเท็จจริงความรับผิดทางละเมิดมิได้เป็นอำนาจ
ของนางพรพิศ แต่เป็นอำนาจขององค์การบริหารส่วนจังหวัดสิงห์บุรี
แต่ก็ไม่มีการดำเนินการใดๆ เพื่อหาตัวผู้ต้องรับผิด จนไม่สามารถหา
ผู้รับผิดจากการทุจริตดังกล่าวได้ การกระทำของนางพรพิศจึงไม่ได้
เป็นการกระทำละเมิดต่อหน่วยงานแต่อย่างใด ศาลจึงพิพากษาให้
เพิกถอนคำสั่ง องค์การบริหารส่วนจังหวัดสิงห์บุรี ที่มีคำสั่งให้
1