Page 337 - kpi10440
        P. 337
     คู่ มื อ ส ม า ชิ ก ส ภ า ท้ อ ง ถิ่ น
                     1)  อำนาจหน้าที่ของศาลปกครอง
                       ศาลปกครองมีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีปกครอง ซึ่งแบ่งออกได้เป็น 5
              ประเภท คือ
                           1.1)  คดีพิพาทอันเนื่องมาจากการกระทำทางปกครองฝ่ายเดียว
                              ซึ่งอาจแยกออกเป็นการกระทำทางกฎหมาย หรือที่เรียกว่า
              “นิติกรรมทางปกครอง” และการกระทำทางกายภาพ หรือที่เรียกว่า “ปฏิบัติการ” การ
              กระทำทางปกครองที่กล่าวมาเป็นการใช้อำนาจที่หน่วยงานหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐสามารถ
              ดำเนินการได้เองฝ่ายเดียวโดยไม่จำต้องให้เอกชนยินยอมก่อน ไม่ว่าจะเป็นการออกกฎ
              เช่น การออกพระราชกฤษฎีกา กฎกระทรวง ระเบียบ ข้อบังคับต่างๆ ที่มีผลบังคับ
              เป็นการทั่วไป หรือการออกคำสั่งทางปกครอง เช่น คำสั่งลงโทษทางวินัย คำสั่งอนุญาต
              อนุมัติ คำสั่งแต่งตั้ง ประกาศผลการสอบแข่งขันเข้ารับราชการหรือเข้าศึกษาต่อซึ่งเป็น
              กรณีของนิติกรรมทางปกครอง ส่วนคดีพิพาทอันเนื่องมาจากการปฏิบัติการใดๆ ของ
              เจ้าหน้าที่ เช่น การก่อสร้างสะพาน ถนน การขุดลอกคลองสาธารณะหรือท่อระบายน้ำ
              สาธารณะ การก่อสร้างห้องสุขาสาธารณะ หรือการก่อสร้างที่พักคนโดยสาร
                           1.2)  คดีพิพาทอันเนื่องมาจากการละเลยต่อหน้าที่หรือปฏิบัติหน้าที่
                               ล่าช้าเกินสมควร เช่น
                              กรมทะเบียนการค้ามีหน้าที่รับจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนและบริษัท
              หรือกรมที่ดินมีหน้าที่ในการรับจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมอสังหาริมทรัพย์ หาก
              กรมทะเบียนการค้าหรือกรมที่ดินปฏิเสธไมรับคำขอหรือรับคำขอแล้วไม่พิจารณาคำขอว่า
              สมควรจดทะเบียนให้ตามคำขอหรือไม่ ถือเป็นการละเลยต่อหน้าที่ตามกฎหมาย แต่ถ้า
              รับคำขอมาแล้วแต่ดำเนินการล่าช้า เช่น กรณีการจดทะเบียนเรื่องใดกฎหมายหรือ
              ระเบียบภายในระบุว่าให้พิจารณารับจดทะเบียนหรือไม่ภายใน 3 วัน หากพ้นกำหนดก็
              ถือว่าปฏิบัติหน้าที่ล่าช้า หากไม่มีการกำหนดระยะเวลาไว้ ก็ต้องพิจารณาจากระยะเวลา
              ตามปกติวิสัยว่าเรื่องนั้นจะต้องใช้เวลาเท่าใด หากพ้นระยะเวลาไปแล้วก็ถือว่าเป็นการ
              ปฏิบัติหน้าที่ล่าช้าเกินสมควร
            20      สถาบันพระปกเกล้า
     	
