Page 48 - kpiebook67027
P. 48

47





                                                 พระเศวตคชเดชน์ดิลก







                            หลังจากพระราชพิธีบรมราชาภิเษกในเดือนกุมภาพันธ์ 2468 มิสเตอร์ ดี. เอฟ. แมคฟี
                     ผู้จัดการป่าไม้บริษัทบอร์เนียว อ�าเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ ได้ส่งโทรเลขกราบบังคมทูลพระกรุณา

                     ว่า ช้างพังหล้า สูง 7 ฟุต 4 นิ้ว ตกลูกเป็นเผือกที่ป่าแม่ยางมิ้ม อ�าเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่

                            วันที่ 6 พฤษภาคม 2469 พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ

                     ให้กรมคชบาลขึ้นไปดูที่เมืองเชียงใหม่ ได้ความว่าเป็นช้างเผือกถูกต้องตามลักษณะทุกประการ

                     แต่เนื่องจากช้างยังเล็กอยู่ โปรดให้เลี้ยงไว้ที่เมืองเชียงใหม่ก่อน

                                                                              ครั้นเมื่อเสด็จฯ ไปนครเชียงใหม่

                                                                       ได้เสด็จฯ ไปทอดพระเนตรช้างเมื่อ
                                                                       วันที่ 24 มกราคม 2469 และระหว่าง

                                                                       วันที่ 27 มกราคม ถึงวันที่ 5 กุมภาพันธ์
                                                                       2469 โปรดเกล้าฯ ให้มีงานสมโภช

                                                                       ช้างพลายส�าคัญที่จังหวัดเชียงใหม่
                                                                       พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จฯ

                                                                       กลับสู่กรุงเทพมหานคร รถไฟใช้จักร
                                                                       เดินตลอดทั้งกลางวันกลางคืน




                            ส่วนช้างพลายส�าคัญที่ได้

                     เดินทางเข้าสู่กรุงเทพฯ โดยทาง
                     รถไฟเช่นเดียวกันและต่อมาอีก

                     10 เดือน ได้มีพระราชพิธีสมโภช
                     ขึ้นระวางที่พระที่นั่งอภิเศกดุสิต

                     ณ พระราชวังดุสิต ในวันพุธที่ 16
                     พฤศจิกายน 2470 พระราชทานนาม

                     ว่า “พระเศวตคชเดชน์ดิลก”








         inside_KPI-museum-17pt.indd   47                                                              9/11/2566   13:14:41
   43   44   45   46   47   48   49   50   51   52   53