Page 6 - kpiebook66025
P. 6
6 การรวมกลุ่มในรัฐสภาเพื่อกิจกรรมทางการเมืองของรัฐสภาอินโดนิเซีย
สุฮาร์โตได้จ�ากัดพื้นที่และจ�านวนพรรคการเมืองในรัฐสภา จนกระทั่งเกิด
วิกฤตการณ์การเงินในเอเชียท�าให้สุฮาร์โตต้องลงจากต�าแหน่งอย่างถาวร ปิดต�านาน
ผู้น�าเผด็จการที่ครองอ�านาจยาวนานถึง 32 ปี เมื่อถึงจุดแตกหักในช่วงวิกฤตปี 1997
รวมกับความล้มเหลวในการบริหารจัดการของรัฐบาลเผด็จการ ความล้มเหลวดังกล่าว
ได้ท�าให้ประชาชนลุกขึ้นต่อสู้เพื่อเรียกร้องการปฏิรูประบอบการปกครองสู่ประชาธิปไตย
ที่ประชาชนมีสิทธิและเสรีภาพ โดยมีการเรียกร้องให้มีการปฏิรูปในหลายด้านด้วยกัน
เช่น การกระจายอ�านาจ การลดบทบาทกองทัพ และการปฏิรูปกฎหมายเกี่ยวกับ
การจัดตั้งพรรคการเมือง รวมไปถึงรูปแบบของรัฐสภา
รัฐสภาอินโดนีเซียอยู่ในรูปแบบสภาเดี่ยว ฝ่ายนิติบัญญัติมีอ�านาจในการ
ออกกฎหมายบังคับใช้ มีการแยกอ�านาจหน้าที่ระหว่างฝ่ายนิติบัญญัติกับฝ่ายบริหาร
อย่างชัดเจน จึงท�าให้กลไกการท�างานของรัฐสภามีประสิทธิภาพ ตัวอย่างเช่น กลไก
การถอดถอนที่มีผลบังคับใช้ได้จริง จากประวัติศาสตร์การเมืองของอินโดนีเซีย
ที่มีการถอดถอนนายอับดุล เราะห์มาน วาฮิด ประธานาธิบดีคนที่สามของอินโดนีเซีย
ให้ออกจากต�าแหน่งในปี 2001 นอกจากนี้รัฐสภาอินโดนีเซียยังมีกลไกส�าคัญที่อนุญาต
ให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสามารถรวมตัวเป็นกลุ่มทางการเมืองภายในรัฐสภา
เพื่อเสนอความคิดเห็นเกี่ยวกับร่างกฎหมายหรือเสนอข้อคิดเห็นต่อนโยบายหรือการด�าเนิน
กิจกรรมต่าง ๆ ของฝ่ายรัฐบาล กล่าวคือ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่มาจากหลากหลาย
พรรคการเมือง สามารถรวมตัวกันเพื่อเสนอร่างกฎหมายต่อรัฐสภา ซึ่งบางครั้งสมาชิก
รัฐสภาอาจมีความคิดเห็นที่แตกต่างจากพรรคการเมืองต้นสังกัด แต่รัฐสภาอินโดนีเซีย
ได้อนุญาตให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสามารถเข้าร่วมกับสมาชิกต่างพรรคการเมือง
ในการเสนอร่างกฎหมายและท�ากิจกรรมทางการเมืองร่วมกันได้ ดังนั้นจึงท�าให้
พรรคการเมืองที่มีจ�านวนสมาชิกในสภาน้อย สามารถใช้สิทธิใช้เสียงลงมติในสภาได้
ไม่เป็นการผูกขาดหรือต้องเห็นชอบกับมติของพรรคการเมืองที่ตนสังกัดหรือพรรคการเมือง
ขนาดใหญ่เท่านั้น