Page 16 - kpiebook66025
P. 16
16 การรวมกลุ่มในรัฐสภาเพื่อกิจกรรมทางการเมืองของรัฐสภาอินโดนิเซีย
ต�าแหน่งและเรียกร้องให้มีการปฏิรูปการเมืองให้เป็นประชาธิปไตย ถือเป็นจุดเริ่มต้น
ของการปฏิรูป (Reformation) ประเทศครั้งใหญ่ทั้งทางการเมือง และเศรษฐกิจ
จนประสบความส�าเร็จในปัจจุบัน
บริบทการเมืองในปัจจุบัน อินโดนีเซียเป็นสาธารณรัฐมีการจัดรูปแบบ
การปกครองแบบรัฐเดี่ยว (unitary state) มีการปกครองในระบอบประชาธิปไตย
มีประธานาธิบดีเป็นทั้งประมุขของประเทศและหัวหน้าฝ่ายบริหาร ประธานาธิบดี
มาจากการเลือกตั้งโดยตรงจากประชาชน สาเหตุที่ระบอบประชาธิปไตยในสาธารณรัฐ
อินโดนีเซียมั่นคงยั่งยืนมาก เพราะการมีเสถียรภาพของกลไกการท�างานของรัฐสภา
ส่วนหนึ่ง ผนวกกับพลังประชาชนที่ต้องการขับเคลื่อนให้เป็นรัฐประชาธิปไตย ภายหลัง
จากการสิ้นสุดยุคเผด็จการต่อเนื่องยาวนานของนายพลสุฮาร์โต สาธารณรัฐอินโดนีเซีย
ได้มีความพยายามปรับโครงสร้างทางการเมืองโดยลดบทบาทของกองทัพในทาง
การเมือง จ�ากัดที่นั่งของทหารในรัฐสภา จนน�าไปสู่การปฏิรูปกองทัพครั้งใหญ่
รัฐสภาของอินโดนีเซียอยู่ในรูปแบบสภาเดี่ยว ฝ่ายนิติบัญญัติมีอ�านาจในการ
ออกกฎหมายบังคับใช้ มีการแยกอ�านาจหน้าที่ระหว่างฝ่ายนิติบัญญัติกับฝ่ายบริหาร
ที่ชัดเจน จึงท�าให้กลไกการท�างานของรัฐสภามีประสิทธิภาพ ตัวอย่างเช่น กลไก
การถอดถอนที่มีผลบังคับใช้ได้จริง จากประวัติศาสตร์การเมืองของอินโดนีเซีย
ที่มีการถอดถอนนายอับดุล เราะห์มาน วาฮิด ประธานาธิบดีคนที่สามของอินโดนีเซีย
ให้ออกจากต�าแหน่งในปี 2001 นอกจากนี้รัฐสภาอินโดนีเซียยังมีกลไกส�าคัญที่อนุญาต
ให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสามารถรวมตัวเป็นกลุ่มทางการเมืองภายในรัฐสภา
เพื่อเสนอร่างกฎหมายหรือเสนอข้อคิดเห็นต่อรัฐสภา กล่าวคือ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
ที่มาจากหลากหลายพรรคการเมือง สามารถรวมตัวกันเพื่อเสนอร่างกฎหมายต่อรัฐสภา
ซึ่งบางครั้งสมาชิกอาจมีความคิดเห็นที่แตกต่างจากพรรคการเมืองต้นสังกัด
แต่รัฐสภาอินโดนีเซียได้อนุญาตให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสามารถเข้าร่วมกับสมาชิก
ต่างพรรคการเมืองในการเสนอร่างกฎหมายและท�ากิจกรรมทางการเมืองร่วมกันได้
ดังนั้นจึงท�าให้พรรคการเมืองที่มีจ�านวนสมาชิกในสภาน้อย สามารถใช้สิทธิใช้เสียง
ลงมติในสภาได้ ไม่เป็นการผูกขาดหรือต้องเห็นชอบกับมติของพรรคการเมืองที่ตนสังกัด
หรือพรรคการเมืองที่มีสมาชิกจ�านวนมากเท่านั้น