Page 208 - kpiebook65062
P. 208
สรุป :
สถาปัตยกรรมในสมัยรัชกาลที่ ๗
รัชกาลพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวแม้จะเป็นช่วงเวลาที่สั้น หากจะเทียบกับ
รัชกาลก่อน ๆ ทว่าก็มีพัฒนาการในงานสถาปัตยกรรมที่เกิดขึ้นคู่ขนานไปกับความเปลี่ยนแปลง
ในบริบททางสังคม เศรษฐกิจ และการเมืองการปกครองในช่วงรัชสมัย การขยายตัวของเมือง จำนวน
พลเมืองที่ทวีสูงขึ้น ตลอดจนพัฒนาการในสาธารณูปโภคและสาธารณูปการ การรับเอาระบบการผลิต
วัสดุก่อสร้างตามแบบอุตสาหกรรมสมัยใหม่ ตลอดจนวิธีการก่อสร้างสมัยใหม่ ล้วนเป็นปัจจัยเบื้องหลัง
การก่อสร้างอาคารจำนวนมากที่มีรูปแบบสมัยใหม่ที่เรียบง่าย ลดทอนลงกว่าสถาปัตยกรรมในช่วง
รัชกาลก่อน ๆ การสร้างอาคารอย่างโรงกรองน้ำ ประปาสถานสามเสน ที่ทำการพัสดุ กรมรถไฟหลวง
ตึกจักรพงษ์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โรงเบียร์บุญรอดบริวเวอรี่ หรือศาลาเฉลิมกรุง ล้วนแสดงให้เห็น
ถึงความเปลี่ยนแปลงทางกายภาพเมืองกรุงเทพฯ ที่เกิดขึ้นพร้อม ๆ กันทั้งภายในเขตเมืองเก่า และ
พื้นที่เมืองใหม่ที่เปิดขึ้น โดยวิสัยทัศน์ของการขยายตัวของพระนครออกไปสู่จังหวัดข้างเคียง ได้แก่
นนทบุรี ธนบุรี และสมุทรปราการ มีแนวความคิดในการควบคุมการขยายตัวทางกายภาพของเมือง
ทั้งโดยพระราชบัญญัติควบคุมการก่อสร้างอาคาร พระราชบัญญัติการวางแผนผังเมือง (Town-
planning) ตลอดจนการขยายโครงข่ายการคมนาคม โดยการสร้างสะพานและถนนเพิ่มเติมในช่วง
รัชสมัย ชีวิตเมืองสมัยใหม่ที่มีโรงมหรสพปรับอากาศอย่างศาลาเฉลิมกรุง โรงแรมสมัยใหม่อย่างโรงแรม
โทรคาเดโรและโรงแรมราชธานี ห้างสรรพสินค้าอย่างห้างบีกริม หรือพื้นที่สาธารณะอย่างสวนสนุกของ
พระยาคทาธรบดีที่สวนลุมพินี สะท้อนถึงวิถีชีวิตเมืองของคนกรุงเทพฯ ที่พัฒนาไปไกลกว่ารัชกาล
ก่อนๆ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความเปลี่ยนแปลงในวัฒนธรรม โลกทัศน์ของคนชั้นกลางในเมือง ที่นำไปสู่
การเปลี่ยนแปลงการปกครอง ใน พ.ศ. ๒๔๗๕
ความเปลี่ยนแปลงทั้งหลายนี้ ส่วนหนึ่งเป็นผลลัพธ์โดยตรงของความเปลี่ยนแปลงในการ
ประกอบวิชาชีพสถาปนิก เห็นได้ชัดว่าช่วงรัชกาลที่ ๗ เป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญที่ช่างฝรั่งค่อย ๆ
ลดบทบาทลงภายหลังการเริ่มเข้ารับราชการของ “สถาปนิกสยาม” รุ่นแรก การเลิกจ้างช่างฝรั่ง
ที่เหลือในช่วงภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ และช่วงการเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. ๒๔๗๕ ขณะเดียวกัน
ก็มีสถาปนิกชาวตะวันตกอีกกลุ่มหนึ่งที่ยังคงมีบทบาทในวงการก่อสร้างอยู่ ได้แก่ นายชาลส์ เบเกอแลง
และนายเอ็ดเวิร์ด ฮีลีย์ ที่ยังคงประกอบวิชาชีพสถาปนิกในสยามจนถึงช่วงสงครามโลกครั้งที่ ๒
197