Page 15 - kpiebook65007
P. 15
2.2.2 เติมควำมรู้และสร้ำงควำมเข้ำใจเรื่อง “ควำมซื่อตรง”
ทางโครงการเริ่มต้นกิจกรรมด้วยการเติมความรู้เกี่ยวกับเรื่อง “ความซื่อตรง” ให้แก่คุณครูที่
ปรึกษาและนักเรียนที่เข้าร่วมกิจกรรม โดยมีนางสาวปัทมา สูบก าปัง นักวิชาการผู้ช านาญการ
จากส านักวิจัยและพัฒนา สถาบันพระปกเกล้า ท าหน้าที่เป็นวิทยากรบรรยายให้ทราบถึงความหมาย
และประเภทของความซื่อตรง รวมถึงผลกระทบหรือความเสียหายที่เกิดขึ้นกับประเทศชาติหากสมาชิก
ในสังคมขาดความซื่อตรง และให้ชมวิดีทัศน์พร้อมทั้งให้นักเรียนได้ร่วมวิเคราะห์สถานการณ์ในวิดีทัศน์
เพื่อสร้างความเข้าใจที่ชัดเจนขึ้น
ก่อนเริ่มบรรยาย วิทยากรได้ให้นักเรียนที่เข้าร่วมกิจกรรมตอบค าถามข้อแรกที่ว่า เมื่อพูดถึง
ค าว่า “ความซื่อตรง” แต่ละคนคิดถึงอะไร โดยเขียนความคิดเห็นของตนลงในบัตรความคิดคนละ 1 ใบ
จ าแนกตามเพศ คือ ผู้ชายใช้บัตรสีเหลือง และผู้หญิงใช้บัตรสีเขียว ซึ่งได้รับค าตอบดังนี้
นักเรียนชำยส่วนใหญ่นึกถึง “คนและบุคคลในอาชีพต่างๆ” โดยให้เหตุผลประกอบว่า
นึกถึงคนเพราะคนมีความซื่อสัตย์ อดทน นึกถึงประชาชนเพราะเราเป็นประชาชน นึกถึงนายกเพราะ
เป็นคนที่ซื่อสัตย์ นึกถึงทหารเพราะมีความซื่อตรงตามกฎหมาย และมีนักเรียนชายสองคนที่นึกถึง
ต ารวจเพราะมีความซื่อตรงต่อประชาชนและมีความยุติธรรม
รองลงมา คือ กลุ่มนักเรียนชายที่เมื่อกล่าวถึงความซื่อตรงนึกถึง “ความตรงไปตรงมา
ไม่คดโกง” อันประกอบด้วย ความซื่อสัตย์ จริงใจ ตรงไปตรงมาก การท าความดี เงิน การไม่โกงกิน
การไม่โกงคนอื่น และเมื่อเก็บเงินได้ควรคืนเจ้าของ
นอกจากนั้น เป็นกลุ่มที่นึกถึงค าพูด การไม่โกหก การซื่อตรงต่อค าพูด พูดสิ่งใดก็ท าสิ่งนั้น
ให้ได้ และยังมีนักเรียนชายคนหนึ่งที่นึกถึง “ถนน” ด้วยเหตุผลที่ว่า ถนนเป็นเส้นทางตรง