Page 178 - kpiebook64015

b. ในกรณีที่บุคคลผู้นั้นถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานผิดกฎหมายเลือกตั้ง จะถือว่า

สิ้นสุดลงหลังจากครบ 3 ปี นับจากวันนั้น

เว้นเสียแต่ (ภายในระยะเวลาระหว่าง5 หรือ 3 ปี ดังกล่าว) ศาลอุทธรณ์ได้มีคำ

วินิจฉัยเป็นอื่นให้พ้นผิด ให้ถือว่าระยะเวลาดังกล่าวสิ้นสุดลงทันที

(4) ในกรณีที่นำความตาม (1)(b) ไปบังคับใช้กับบุคคลใด ให้บุคคลผู้นั้นพ้นจากตำแหน่ง

ดังกล่าวทันทีที่เหมาะสมตามมาตรานี้ กล่าวคือ
a. เมื่อสิ้นสุดระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดให้สามารถยื่นอุทธรณ์คำวินิจฉัย

ดังกล่าวได้ หรือ
b. ในกรณีที่ระยะเวลาดังกล่าวถูกขยายออกไป

i. เมื่อสิ้นสุดระยะเวลาที่ขยายไปดังกล่าว

ii. เมื่อสิ้นสุดระยะเวลา 3 เดือนหลังจากที่มีคำวินิจฉัยว่ากระทำผิด

อันใดอันหนึ่งที่เกิดขึ้นก่อน

(5) ในกรณีที่ (ก่อนหน้าระยะเวลาอันเหมาะสมตาม (4) ข้างต้น) มีการยื่นอุทธรณ์โดย

บุคคลที่ถูกตัดสินว่ามีความผิด ให้บุคคลผู้นั้นพ้นจากตำแหน่งหลังจากครบ 3 เดือน

เริ่มต้นนับตั้งแต่วันที่ถูกตัดสิน เว้นเสียแต่

a. การอุทธรณ์นั้นไม่ได้ถูกรับพิจารณาในวันใดก่อนหน้านั้น หรือ

b. ศาลอุทธรณ์มีคำวินิจฉัยภายในระยะเวลา 3 เดือนดังกล่าว ว่าให้พ้นจากข้อ

กล่าวหานั้น (ในกรณีนี้บุคคลผู้นั้นไม่ต้องพ้นจากตำแหน่ง)

(6) ในกรณีที่บุคคลหนึ่งพ้นจากตำแหน่งตาม (4) หรือ (5) ไปแล้ว บุคคลผู้นั้นไม่สามารถ

กลับเข้าสมาดำรงตำแหน่งดังกล่าวได้อีกแม้ว่าศาลจะมีคำวินิจฉัยให้พ้นผิด

(7) หากบุคคลที่ถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานกระทำการอันเป็นการทุจริตการเลือกตั้ง หรือ

ผิดกฎหมายเลือกตั้ง ได้รับการเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือดำรง

ตำแหน่งใดใดที่มาจากการเลือกตั้งไปแล้ว ให้บุคคลผู้นั้นหยุดการปฏิบัติหน้าที่ใน

ฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือการปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งที่มาจากการเลือกตั้ง

ดังกล่าวตามระยะเวลาที่ระบุใน (8)

(8) เพื่อให้เป็นไปตาม (7) ระยะเวลาที่บุคคลต้องหยุดการปฏิบัติหน้าที่ โดยเริ่มต้นตั้งแต่

วันที่ถูกตัดสินว่ามีความผิด และสิ้นสุดลงเมื่อ

178