Page 94 - kpiebook64013
P. 94
(9) คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต
แห่งชาติ (ป.ป.ช)
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยพุทธศักราช 2540 มาตรา
297 วรรค 1 และ 3 (อนุโลมใช้มาตรา 257 และ 258) กำาหนดให้
41
42
มีคณะกรรมการสรรหา สรรหาผู้ทรงคุณวุฒิสาขานิติศาสตร์ 10 คน
และผู้ทรงคุณวุฒิสาขารัฐศาสตร์มา 6 คน จากนั้นวุฒิสภาเลือกให้เหลือ
5 คน และ 3 คนตามลำาดับ เพื่อเสนอแต่งตั้งเป็นคณะกรรมการป้องกัน
และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช)
พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและ
ปราบปรามการทุจริตพุทธศักราช 2542 มาตรา 6 ประกอบมาตรา 7
กำาหนดให้ประธานวุฒิสภาจัดให้มีคณะกรรมการสรรหา เพื่อสรรหา
และจัดทำาบัญชีรายชื่อผู้ทรงคุณวุฒิจำานวน 18 คน เสนอต่อประธาน
วุฒิสภาเพื่อให้วุฒิสภามีมติเลือกให้เหลือ 9 คน แล้วให้ผู้ได้รับเลือก
ประชุมเลือกกันเองให้เป็นประธานกรรมการคนหนึ่ง แล้วประธานวุฒิสภา
นำารายชื่อขึ้นทูลเกล้าถวายเพื่อทรงแต่งตั้ง และประธานวุฒิสภาเป็น
ผู้ลงนามรับสนองพระบรมราชโองการแต่งตั้ง
41 มาตรา 297 วรรค 1 คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ
ประกอบด้วย ประธานกรรมการคนหนึ่ง และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิอื่นอีกแปดคน
ซึ่งพระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้งตามคำาแนะนำาของวุฒิสภา
42 มาตรา 297 วรรค 3 การสรรหาและการเลือกกรรมการป้องกันและปราบปราม
การทุจริตแห่งชาติ ให้นำาบทบัญญัติมาตรา 257 และมาตรา 258 มาใช้บังคับ
โดยอนุโลม ทั้งนี้ โดยให้คณะกรรมการสรรหากรรมการป้องกันและปราบปราม
การทุจริตแห่งชาติจำานวนสิบห้าคน ประกอบด้วย ประธานศาลฎีกาประธานศาล
รัฐธรรมนูญ ประธานศาลปกครองสูงสุด อธิการบดีของสถาบันอุดมศึกษาของรัฐ
ที่เป็นนิติบุคคลทุกแห่งซึ่งเลือกกันเองให้เหลือเจ็ดคน ผู้แทนพรรคการเมืองทุกพรรค
ที่มีสมาชิกเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคละหนึ่งคนซึ่งเลือกกันเองให้เหลือ
ห้าคนเป็นกรรมการ
94 บทบาทอำานาจหน้าที่ของวุฒิสภาในระบบสภาคู่กับประสิทธิผลในการเสริมสร้างเสถียรภาพทางการเมืองและการพัฒนาประชาธิปไตยไทย