Page 80 - kpiebook63032
P. 80
79
ในด้านการหาเสียง เนื่องจากตนเป็นผู้มากบารมีและลงสมัครในนามระบบสัดส่วน แต่ต้องช่วย
ผู้สมัครในระบบแบ่งเขต ที่มีความสัมพันธ์เป็นลูก หลาน และคนสนิท ในการหาเสียงจึงพบว่ามีข้อจำากัด
ในการใช้พื้นที่หาเสียงมาก แต่ยังคงได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี
ค�ำถำมข้อที่ 3 ควำมคิดเห็นต่อทิศทำงกำรเมืองไทยภำยหลังจำกกำรเลือกตั้ง
ผู้สมัครคนที่ 1 ภายหลังจากการเลือกตั้งในส่วนของตนคาดคะเนว่าจะได้รับคะแนนเสียงไม่ตำ่า
กว่า 10,000 คะแนน เพราะขณะหาเสียงได้รับการตอบรับและกระแสที่ดี และคาดการณ์ว่าหากตนไม่ได้
รับการเลือกตั้ง ผู้ได้รับการเลือกตั้งจะเป็นพรรคของกลุ่มอำานาจเก่าในพื้นที่ เพราะกลุ่มการเมืองเก่ายังมี
อิทธิพลต่อการเลือกตั้งในครั้งนี้
ส่วนการจัดตั้งรัฐบาล ผู้สมัครคนที่ 1 มองว่าหากการสืบทอดอำานาจสำาเร็จได้กลับมาเป็นรัฐบาล
อีกครั้ง จะเกิดการชุมนุมประท้วงแน่นอน และรัฐบาลจะอยู่ไม่ได้นาน ไม่มีเสถียรภาพทางการบริหาร
เศรษฐกิจไม่ดี เพราะนโยบายที่จะสานต่อโครงการเก่า (บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ) สร้างปัญหาพบว่าคนจน
ไม่ได้บัตร คนที่ได้บัตรมีความสนิทสนมหรือเป็นพวกพ้องของกำานัน ผู้ใหญ่บ้าน และหากฝ่ายประชาธิปไตย
ได้รับเสียงข้างมากในการจัดตั้งรัฐบาล อาจเกิดการเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ทางการเมืองได้เช่นกัน
ผู้สมัครคนที่ 2 คาดการณ์ว่าด้วยระบบที่เอื้ออำานวยต่อการสืบทอดอำานาจ พรรคของรัฐบาล
จะได้จัดตั้งรัฐบาลแน่นอน ซึ่งจะทำาให้รัฐบาลไม่เสถียรภาพ เกิดปรากฏการณ์ “งูเห่า” ในสภาผู้แทนฯ
เกิดวิกฤติความเชื่อมั่นศรัทธาในตัวผู้นำารัฐบาล และอาจนำาไปสู่การรัฐประหารอีกครั้ง
แต่หากพรรคฝ่ายประชาธิปไตยชนะ ไม่น่าจะเกิดการรัฐประหาร ส่วนการรวมกันเพื่อจัดตั้ง
รัฐบาลของพรรคเพื่อไทยและพรรคประชาธิปัตย์เกิดขึ้นได้ยาก
ผู้สมัครคนที่ 3 มองว่าประเทศภายหลังจากการเลือกตั้งหากมีการเรียกร้อง คัดค้านเป็นเรื่องปกติ
ตามระบอบประชาธิปไตย แต่ก็ยังคงจะมีความสงบ เพราะปัจจุบันเป็นรัฐบาลแบบอำานาจเต็มประชาชน
ถูกกดขี่ทางการแสดงออก เมื่อเลือกตั้งแล้วประชาชนจะมีเสรีมากยิ่งขึ้น แต่คงไม่ถึงจะไม่สงบแล้วกลับไป
สู่รูปแบบเก่า หากรัฐบาลไม่สามารถบริหารงานได้คงจะเกิดการยุบสภา เลือกตั้งใหม่
ในประเด็นการเลือก ส.ว.ที่เป็นผลพวงจากรัฐธรรมนูญ ตนมองว่าอาจจะเกิดการเปลี่ยนแปลง
ท่าทีของ ส.ว. อย่างแน่นอนเพราะทนกับกระแสของประชาชนไม่ไหว