Page 150 - kpiebook63031

149

“เหตุผลที่คู่แข่งแพ้ ตนมองว่ำยังหน้ำใหม่อยู่ ควำมผูกพันน้อยกว่ำคุณพ่อเยอะมำก มันห่ำง

กันเยอะ ควำมสัมพันธ์ ควำมผูกพันมันยังไม่มำก กระแสพรรคก็ไม่มำ ปัจจัยในกำรชนะมันน้อย ซึ่งเงิน
มันก็ต้องประกอบกับคนเก่ำด้วย ถ้ำเงินเยอะ แต่ว่ำมันยังขำดบำรมี มันจะยำก ผมยังรู้สึกว่ำเขำยังขำด

บำรมี คือคนในพื้นที่ ยังช่วยเขำไม่เยอะเท่ำคุณพ่อ ตอนหำเสียง ตอนปรำศรัยย่อย แต่ละหมู่บ้ำน....”

จริงๆ ผมว่ำมันถึงจุดหนึ่งที่ว่ำเรื่องเงินยังมีผล แต่ว่ำเปอร์เซ็นต์ในกำรมีผลมันลดลง
มีประชำกรสัก 20% ที่จะยึดเรื่องเงิน แต่ว่ำมันก็ยังมีคนน้อย

รูปแบบกำรหำเสียงครั้งนี้ ส�ำหรับผมเอง จริงๆ ทุกครั้งก็แตกต่ำงกันหมดนะ แต่ว่ำครำวนี้

มันจะเป็นปรำศรัยย่อยเยอะขึ้น ทุกหมู่บ้ำน เพรำะว่ำกำรจัดอะไรใหญ่ๆ มันจะยำก แล้วสื่อกระแสหลักนี้
ไม่มีเลย มันจะเน้นกำรปรำศรัยย่อย เรื่องก่อนหน้ำที่หำเสียงได้ เขำไม่ให้หำเสียง แล้วครำวนี้นโยบำย

มันไม่สำมำรถที่จะบอกได้นำนๆ เหมือนครำวก่อน แล้วมันกระชั้นมำก แล้วพรรคก็ต้องโดนตรวจสอบ
นโยบำยก่อนที่จะปล่อยออกมำด้วย ก็คือเหมือนกับว่ำ กกต. ต้องตรวจก่อน มันไม่ใช่เวทีนโยบำยเหมือนเดิม

มันเป็นเวทีจุดยืน คือเรำไม่สำมำรถที่จะไปบอกอะไรผ่ำนทีวี ผ่ำนอะไรเหมือนเมื่อก่อนละ วันหนึ่งลงพื้นที่
ปรำศรัยประมำณ 10 หมู่บ้ำน วันละต�ำบล ตอนเช้ำเป็นหมู่บ้ำนขนำดเล็ก กลำงคืนเป็นหมู่บ้ำนขนำดใหญ่

คือทำงพรรคก็ออกนโยบำยมำช้ำ คือท�ำได้ แต่ผมคิดว่ำพรรคก็คงมีปัญหำในด้ำนกฎหมำย

ที่ว่ำนโยบำยต้องส่งไปให้ กกต. ตรวจก่อน ว่ำมันกลำยเป็นว่ำ สัญญำว่ำจะให้รึเปล่ำ ตรวจเสร็จแล้วค่อย
มำบอก เรำมีเวลำบอกนโยบำย มันแค่ 10 วันสุดท้ำย 7 วันสุดท้ำย มันน้อยมำก แล้วเรำก็ต้องพยำยำม

ปรำศรัยย่อย จริงๆ ปรำศรัยย่อย มันก็ต้องกินเวลำ เดือนสองเดือนนะ มันถึงจะปรำศรัยย่อยได้ถี่ เยอะ
ขนำดนั้น แต่ว่ำเรำก็ต้องปรับยุทธศำสตร์ว่ำ เรำต้องไปบ้ำนไหน ยังไง เวลำจะไปยังไง วันหนึ่งปรำศรัย

ก็น่ำจะประมำณ 10 จุด แต่ว่ำมันจะเน้นหนักตอนเย็น ตอนเย็นนี้จะเยอะหน่อย ตอนเย็นนี้ก็จะประมำณ
4-5 จุด ที่เหลือก็ระหว่ำงวัน” (เอกชัย ทรงอำานาจเจริญ, สัมภาษณ์, 30 มิถุนายน 2562)

สนับสนุนด้วยทัศนะของ ส.ส.ประภูศักดิ์ จินตะเวช (สัมภาษณ์, 29 มิถุนายน 2562)

พรรคเพื่อไทย เขตเลือกตั้งที่ 9 อำาเภอบุณฑริก อำาเภอนาจะหลวย อำาเภอสิรินธร (ยกเว้น ต.ฝางคำา ต.คันไร่

ต.นิคมสร้างตนเองลำาโดมน้อย) ที่วิเคราะห์ว่า ประชาชนไม่ชื่นชอบการบริหารงานของรัฐบาล คสช.
ตลอดระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากปัญหาเรื่องเศรษฐกิจไม่ได้รับการแก้ไข เกิดการเปรียบเทียบกับ
รัฐบาลที่มาจากพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน หรือพรรคเพื่อไทยที่เคยทำาให้เศรษฐกิจเฟื่องฟู

ดังบทสัมภาษณ์ตอนหนึ่งว่า

“ส่วนหนึ่งก็ต้องยอมรับว่ำ ในกำรบริหำรงำน 5 ปี ของรัฐบำล คสช. กำรแก้ปัญหำเรื่อง

ของเศรษฐกิจ ประชำชนไม่ได้รับกำรแก้ไข แล้วก็พูดง่ำยๆ ภำษำบ้ำนเรำก็คือ “เกำไม่ถูกขี้ไคล” ไม่ได้
แก้ไขปัญหำเรื่องของปำกท้องได้อย่ำงจริงจัง แล้วท�ำให้ประชำชนเขำยังมองถึงกำรแก้ปัญหำในยุคของ