Page 48 - kpiebook63030
P. 48
47
“นักธุรกิจ ประมงพาณิชย์หลายท่านที่ผมไปเจอมา ไม่ได้มีปัญหาต่อมาตรฐานไอยูยู ทุกคน
พร้อมที่จะปฏิบัติตาม เพียงแต่ว่าต้องขอความร่วมมือในเรื่องระยะเวลาที่ค่อยๆ ขยับขยายให้ทำาตาม
ขั้นตอนตามข้อกำาหนดนั้น และขอการมีส่วนร่วมในการพูดคุยกันว่า กฎหมายหรือมาตรการต่างๆ ที่จะ
ออกมา จุดไหนที่จะพอยอมรับกันได้ ทั้งสอดคล้องกับมาตรฐาน และทำาให้ธุรกิจของเขาอยู่ได้ด้วย นี่เป็น
เรื่องสำาคัญมาก”
นายปิยบุตร กล่าวเพิ่มเติมว่า จำาเป็นต้องกลับมาทบทวน หาจุดร่วมกันระหว่างผู้ประกอบการ
ประมง แรงงาน และมาตรฐานของไอยูยู มานั่งเจรจาตกลงกัน ว่าจุดไหนที่พอจะรับกันได้ เพราะการที่เรา
ยอมรับกฎเกณฑ์ระหว่างประเทศไว้ทั้งหมด โดยไม่เจรจาต่อรองเลยจะส่งผลในระยะยาว คือ ผู้ประกอบ
การรายเล็กหรือระดับกลาง จะไม่สามารถทำาได้ตามมาตฐาน ใบอนุญาตก็จะถูกยึด ต้องเลิกประกอบ
กิจการ สุดท้ายก็จะเกิดกลุ่มทุนใหญ่ซึ่งเป็นทุนผูกขาดเข้ามาเทคโอเวอร์ และไม่ใช่แค่การเทคโอเวอร์เรือ
หรือเทคโอเวอร์บริษัทเท่านั้น แต่ในระยะยาวนี่คือการเทคโอเวอร์ทั้งธุรกิจประมง” นายปิยบุตร กล่าว
ในส่วนการดำาเนินการของพรรคอนาคตใหม่ หลังจากการรับฟังปัญหาในหลายๆ พื้นที่เรื่องนี้นั้น
ทางอนาคตใหม่ตั้งใจที่จะออกแบบนโยบายเรื่องเกี่ยวกับการประมงเข้าไปผลักดันต่อไป โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
การทบทวนกฎหมายใหม่ โดยหลักการประชาธิปไตย การมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ผู้มีส่วนได้เสีย
มานั่งคุยกัน แก้ไขกฎหมายใหม่ร่วมกัน และอนาคตเมื่อต้องการให้เรือประมง ชาวประมง ธุรกิจประมงให้
ได้มาตรฐานไอยูยูมากขึ้น รัฐจำาเป็นต้องเข้าไปสนับสนุน และให้ช่วงเวลาในการเปลี่ยนผ่านจนได้มาตรฐาน
การบังคับใช้กฎหมายแบบเคร่งครัดทันที อาจจะแลกมาซึ่งการที่เราไม่โดนใบเหลืองใบแดง หรือรัฐบาล
ได้รับการยอมรับจากต่างประเทศ แต่ในทางกลับกัน กลับทำาลายธุรกิจประมงของคนไทยไป