Page 50 - kpiebook63029
P. 50
49
1. พรรคเพื่อไทย
พรรคเพื่อไทย ถือเป็นพรรคที่ได้รับความนิยมอย่างมากในภาคอีสานมานานนับตั้งแต่สมัยเป็น
พรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน จนถึงพรรคเพื่อไทย โดยหนึ่งในนั้นคือพื้นที่จังหวัดเลย พิจารณา
จากการเลือกตั้งในปี 2548 2550 และ 2554 ที่พรรคสามารถชนะในทุกเขตเลือกตั้งในจังหวัดเลย
แม้จะมีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเดิมบางส่วน แต่ย้ายไปสังกัดพรรคการเมืองใหม่ ทั้งยังเป็นทายาทตระกูล
การเมืองที่มีชื่อเสียงในจังหวัดเลย เมื่อมีการจัดการเลือกตั้งใหม่กลับพบว่า ผู้ที่ย้ายพรรคไม่สามารถเอาชนะ
การเลือกตั้งครั้งนั้นได้ อีกทั้ง ผู้สมัคร ส.ส. ใหม่ ที่สังกัดพรรคเพื่อไทย แม้ไม่เคยมีประสบการณ์ทางการเมือง
ระดับชาติมาก่อน แต่สามารถเอาชนะคู่แข่งจากพรรคการเมืองอื่นอย่างถล่มทลาย ทำาให้กว่า 2 ทศวรรษ
ยังไม่มีพรรคการเมืองไหนนอกจากพรรคเพื่อไทยที่จะสามารถยึดครองฐานเสียงครอบคลุมทั้งจังหวัด
การเลือกตั้งในครั้งนี้มีการวิเคราะห์จากหลายฝ่ายว่า พรรคเพื่อไทยจะสามารถรักษาพื้นที่ในทุกเขต
เลือกตั้งดังเช่นเดิมได้หรือไม่ เนื่องจากอดีต ส.ส. จังหวัดเลย ทั้ง 3 เขต ได้แก่ นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข
นางเปล่งมณี เร่งสมบูรณ์สุข และนายวันชัย บุษบา ได้ย้ายไปสังกัดพรรคพลังประชารัฐ ยกเว้น
นางนันทนา ทิมสุวรรณ ทำาให้พรรคเพื่อไทยต้องสรรหาและคัดเลือกผู้ที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งในนาม
พรรคใหม่ทั้งหมด นอกจากความเป็นไปได้ยากที่จะรักษาพื้นที่เดิมของพรรคเพื่อไทยได้แล้ว โอกาสการชนะ
การเลือกตั้งแบบถล่มทลายยังเป็นไปได้ยากเช่นเดียวกัน เนื่องจากที่ผ่านมาการทุ่มงบประมาณมหาศาล
ให้ถึงมือคนรากหญ้าอย่างเป็นรูปธรรมในรูปของเงินที่ประชาชนจับต้องได้ผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐของ
รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ เป็นปัจจัยส่วนหนึ่งที่ทำาให้ประชาชนที่เคยเลือกพรรคเพื่อไทยหันมาสนับสนุน
พล.อ. ประยุทธ์ และพรรคพลังประชารัฐแทนที่พรรคเพื่อไทย อีกทั้งการที่พรรคพลังประชารัฐก้าวมาเป็น
คู่แข่งลำาดับหนึ่ง แทนที่พรรคประชาธิปัตย์ในระดับประเทศ และพรรคภูมิใจไทยในระดับจังหวัด ประกอบกับ
การอาศัยกลไกอำานาจรัฐ อิทธิพลทางการเมืองและชื่อเสียงของตระกูลทางการเมือง ทำาให้การเลือกตั้ง
ครั้งนี้จึงเป็นความท้าทายอย่างยิ่งของพรรคเพื่อไทย
อย่างไรก็ดี เมื่อพิจารณาผลสำารวจความคิดเห็นประชาชนคนอีสานต่อการเลือกตั้งในปี 2562
โดย อีสานโพล ศูนย์วิจัยธุรกิจและเศรษฐกิจอีสาน คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น โดยใช้
กลุ่มตัวอย่างในพื้นที่ 20 จังหวัดทั่วภาคอีสาน จำานวน 1,093 ราย พบว่า คนอีสานส่วนใหญ่ยังมีแนวโน้ม
ที่จะสนับสนุนผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทย (ร้อยละ 43.6) และพรรคอนาคตใหม่ (ร้อยละ 23.2) ส่วนพรรค
พลังประชารัฐตามเป็นลำาดับ 3 (ร้อยละ 11.7) และบุคคลที่ต้องการให้เป็นนายกรัฐมนตรีมากที่สุด
คือ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ (ร้อยละ 31.1) และนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ (ร้อยละ 24.9) ส่วน
พล.อ. ประยุทธ์ จันโอชา ตามมาเป็นลำาดับ 3 (ร้อยละ 11.9) เช่นเดียวกัน แม้ผลสำารวจความคิดเห็น
21
ดังกล่าวจะท้อนผลในระดับภาพรวมของภาคอีสาน แต่ก็สอดคล้องกับผลการสำารวจความคิดเห็นประชาชน
ในจังหวัดเลยโดยผู้วิจัย ซึ่งผู้วิจัยได้ใช้กลุ่มตัวอย่างประชาชนจังหวัดเลยจำานวน 60 ตัวอย่าง พบว่า
21 “อีสานโพล คนอีสานยังหนุนเพื่อไทยมาที่ 1 อยากให้ “เจ๊หน่อย” นั่งนายกฯ” ไทยรัฐ, 14 มีนาคม 2562,
จาก www.thairath.co.th/news/local/northeast/1519285