Page 143 - kpiebook63029
P. 143
142 การศึกษาความเคลื่อนไหวทางการเมืองและพฤติกรรมการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2562 จังหวัดเลย
ของนายธนยศว่า “ที่เขาชนะไม่เกี่ยวกับพรรคภูมิใจไทยเลย เขาเลือกเพราะตัวบุคคลมากกว่า เพราะ
นามสกุลทิมสุวรรณไปถามใคร ใครก็รู้ เขาอยู่ในพื้นที่มานาน”
ประการที่ 2 การเปลี่ยนแปลงพรรคการเมือง และความเบื่อหน่ายนักการเมืองเดิม
การที่นายปรีชาตัดสินใจย้ายจากพรรคเพื่อไทยไปพรรคพลังประชารัฐไม่ว่าด้วยสาเหตุใดก็ตาม
ถือว่าเป็นการตัดสินใจที่มีความเสี่ยงพอสมควรที่จะทำาให้นายปรีชาพ่ายแพ้การเลือกตั้งในครั้งนี้เมื่อ
เปรียบเทียบกับนักการเมืองของจังหวัดเลยในอดีตหลังจากการย้ายพรรค ประกอบกับกระแสความนิยม
ส่วนตัวของนายปรีชาที่ลดลงอย่างต่อเนื่องจากในขณะที่นายปรีชาเป็น ส.ส. มาหลายสมัย หรือเป็นรัฐมนตรี
ไม่ปรากฏผลงานที่เป็นรูปธรรมมากนักจนเป็นความเบื่อหน่ายนักการเมืองเก่าๆ มากขึ้น แม้นายปรีชา
จะมีเครือข่ายทางการเมืองในระดับท้องถิ่นอย่างเหนียวแน่น แต่เมื่อนายปรีชาย้ายพรรคการเมืองไปอยู่
ตรงข้ามกับพรรคเพื่อไทย จึงเป็นคำาถามว่าเครือข่ายเหล่านั้นยังจะให้การสนับสนุนนายปรีชาเช่นเดิม
หรือไม่ จากการให้สัมภาษณ์ของผู้นำาท้องถิ่นแห่งหนึ่ง กล่าวว่า “นายปรีชาเป็น ส.ส. มาหลายสมัย
เป็นรัฐมนตรีมาหลายกระทรวง แต่ผลงานแทบจะไม่มี ไปถามชาวบ้านที่เขาเลือกเพราะอยู่เพื่อไทย
มากกว่า ตอนนายปรีชาเป็นรัฐมนตรีก็มีข่าวโยกย้ายข้าราชการ พวกพ้องตนเองมากกว่าการพัฒนาพื้นที่
เขาเลยมีแผลตรงนี้” (สัมภาษณ์ วันที่ 22 พฤษภาคม 2562) ผู้นำาท้องถิ่นคนดังกล่าว ยังกล่าวต่อว่า
“ตนเคยสนับสนุนนายปรีชาสมัยอยู่เพื่อไทย เพื่อนหลายคนก็สนับสนุนช่วยหาเสียงบ้าง พอเขาย้ายพรรค
เขาก็ไปขอให้ผู้นำาชุมชนผู้นำาท้องถิ่นให้การสนับสนุน ตอนอยู่ต่อหน้าเขาก็รับปากว่าจะช่วย แต่พอเขา
กลับไปบ้านเขาก็ไม่กล้าพูดเต็มปากกับชาวบ้านว่าขอให้เลือกนายปรีชา เพราะชาวบ้านเขาถามว่า
ทำาไมถึงย้ายพรรค เขาก็ตอบได้ไม่ชัด” (สัมภาษณ์ วันที่ 22 พฤษภาคม 2562)
เช่นเดียวกับผู้สมัคร ส.ส. พรรคการเมืองหนึ่ง กล่าวว่า “แต่ก่อนที่นายปรีชาชนะการเลือกตั้ง
ในปี 2554 เพราะอยู่พรรคเพื่อไทย พื้นที่พรรคเขาเหนียวแน่น ถ้าเขาไม่อยู่พรรคเพื่อไทยในครั้งนั้น
ผมว่าก็แพ้นายวสันต์ สังขทรัพย์” (สัมภาษณ์ วันที่ 24 พฤษภาคม 2562) ไม่ต่างจากผู้นำาชุมชนแห่งหนึ่ง
กล่าวว่า “ด้วยความเบื่อหน่ายนักการเมืองเดิมๆ พอประชาชนเขามีตัวเลือกที่ใหม่กว่า แม้คนนั้น
จะไม่มีประสบการณ์ทางการเมือง เขาก็จะหันไปเลือกคนใหม่อยู่แล้ว อย่างเช่น ส.ส. ธนยศ เขาลงครั้งแรก
แต่เขาเห็นผลงานจากตระกูลเขา พัฒนาพื้นที่ต่อ ได้งบลงมาตลอด หรือคุณสันติภาพก็เป็นคนใหม่
ได้กระแสพรรคไป” (สัมภาษณ์ วันที่ 28 เมษายน 2562)
เมื่อพิจารณาผลการเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งที่ 3 ในครั้งนี้ พบว่า นายปรีชาแพ้ในเกือบทุกตำาบล
มีเพียงตำาบลนาแห้วและตำาบลนาพึงเท่านั้น สะท้อนว่า ความนิยมของนายปรีชาลดลงอย่างชัดเจน และ
การที่นายปรีชาย้ายไปอยู่พรรคพลังประชารัฐก็เป็นส่วนสำาคัญที่ทำาให้เกิดตัวเลือกทางการเมืองใหม่
มากขึ้น ส่งผลนายปรีชาได้คะแนนเสียงน้อย เพราะฐานเสียงเดิมของนายปรีชาหันมาเลือกผู้สมัคร ส.ส.
ใหม่จากพรรคเพื่อไทย หรือเลือกนายธนยศ จากพรรคภูมิใจไทยแทน