Page 57 - kpiebook63020
P. 57
นาพันสามจะนำปัญหาเพื่อเข้าสู่สภากาแฟในการทำงาน นอกจากนี้ องค์การบริหารส่วนตำบล
นาพันสามยังริเริ่มใช้นาพันสามโมเดล กล่าวคือ การมีส่วนร่วมดี การบริหารดี แก้ปัญหา
ตรงจุด สอดคล้องกับอัตลักษณ์ชุมชน และร่วมกันพัฒนาอย่างยั่งยืน เพราะเชื่อว่าอัตลักษณ์
ชุมชนจะเป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนาชุมชนที่โดดเด่นและยั่งยืน
องค์การบริหารส่วนตำบลนาพันสามสร้างความต่อเนื่องและยั่งยืนด้วยการให้ชุมชน
เป็นศูนย์กลางในการตัดสินใจเป็นหลักเพราะสมาชิกในชุมชนสามารถแสดงความคิดเห็น
ต่อปัญหา หรือพูดคุยได้อย่างเปิดเผยและโปร่งใสไม่มีการทุจริต ผู้บริหารและบุคลากรของ
องค์การบริหารส่วนตำบลนาพันสามตระหนักเป็นอย่างดีว่าชาวนาพันสามมีจิตสำนึกรักถิ่น
และรู้จักบุคคลที่จะเข้ามาสร้างประโยชน์ให้แก่ชุมชน ผู้นำที่เข้ามาทำงานต้องมีหลักจริยธรรม
คุณธรรม ซื่อสัตย์สุจริต และมีศีลธรรมเป็นฐานในการบริหารงาน ไม่มีประโยชน์ส่วนตน
เน้นประโยชน์ของชุมชนเป็นหลัก อุดมการณ์ที่เรียบง่ายและมีคุณค่าเช่นนี้เองจึงกลายเป็น
บรรทัดฐานค่านิยมที่สอดแทรกเข้าไปยังการบริหารงานขององค์การบริหารส่วนตำบล
นาพันสาม
ตัวอย่างโครงการที่สะท้อนถึงความเป็นเลิศด้านความโปร่งใสและส่งเสริมการมีส่วนร่วม
ของประชาชน
โครงการมหาวิชชาลัยเพื่อการพัฒนาท้องถิ่นอย่างยั่งยืน
มหา ลัยบ้านทุ่ง
ที่มาของโครงการมหาวิชชาลัยเพื่อการพัฒนาท้องถิ่นอย่างยั่งยืน หรือเรียกกัน
ภาษาพื้นบ้านตามแบบฉบับของชุมชนนาพันสามว่า “มหา’ลัยบ้านทุ่ง” นั้นเกิดขึ้นจากเวที
“สภากาแฟตำบลนาพันสาม” ที่ประกอบไปด้วย 3 ส่วนได้แก่ บ้าน (ครัวเรือนในชุมชน)
วัดนาพรม ผู้บริหารและบุคลากรขององค์การบริหารส่วนตำบลนาพันสาม ในปี 2562
ที่ร่วมกันปรึกษาหารือว่าปัจจุบันองค์ความรู้ วัฒนธรรม ประเพณี วิถีการทำเกษตรกรรม
ทำขนม ทำนา วัสดุ อุปกรณ์ต่าง ๆ ของปราชญ์ชาวบ้านนาพันสามกำลังจะสูญหาย และไม่มี
การสืบทอดต่อจากบรรดาลูกหลานในแต่ละชุมชน เนื่องจากลูกหลานส่วนใหญ่ไปเรียนและ
ทำงานที่กรุงเทพฯ ซึ่งองค์ความรู้ วัฒนธรรม ประเพณีตั้งแต่ในอดีตของนาพันสามได้รับ
การยกย่องเชิดชูเกียรติและประสบความสำเร็จหลายครั้ง กล่าวได้ว่าเป็นความสำเร็จที่มี
คุณค่าควรแก่การอนุรักษ์ไว้ ที่สำคัญ คือ องค์ความรู้และข้อมูลกระจัดกระจายไปตาม
ครัวเรือนไม่มีแหล่งที่จะเก็บไว้ให้เป็นหมวดหมู่ ซึ่งหากไม่รีบดำเนินการความรู้ที่สำคัญ
รางวัลพระปกเกล้า 63