Page 115 - kpiebook63006
P. 115

115








                  สื่อสังคมออนไลน์อย่างหนักหน่วงมากที่สุดกว่าการเลือกตั้งครั้งใด แต่การปราศรัยทั้งปราศรัยย่อย

                  และปราศรัยใหญ่ยังคงเป็นสิ่งที่พรรคการเมืองเกือบทุกพรรคใช้เป็นช่องทางการสื่อสาร และแสดงให้
                  ผู้มีสิทธิเลือกตั้งเห็นถึงความเอาจริงเอาจังของพรรคในการแข่งขันเลือกตั้ง


                          พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเวทีปราศรัยที่เขต 1 เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2562 ที่สนามหน้าโรงเรียนสาธิต

                  มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา มีประชาชนโดยเฉพาะสมาชิกพรรคจากเขตเลือกตั้งทั้ง 8 เขต มาร่วมฟังเป็น
                  จำานวนมากเกือบหนึ่งหมื่นคน โดยมีอภิสิทธิ์ เดินทางมาร่วมปราศรัย เพื่อดึงดูดผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งที่ชื่นชอบ

                  ในตัวหัวหน้าพรรคผู้นี้ อย่างไรก็ตาม ด้วยเหตุที่เกิดปัญหาความเป็นเอกภาพของพรรคตั้งแต่ในระดับชาติ
                  จนถึงในพื้นที่จังหวัดสงขลาตามที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น การเปิดเวทีปราศรัยใหญ่ในครั้งนี้จึงเป็นการยืนยัน

                  ถึงปัญหาดังกล่าวอย่างชัดเจนเมื่อมีผู้สมัครเพียง 4 เขตเลือกตั้งเท่านั้นที่มาร่วมปราศรัยบนเวที 4 คนนี้
                  คือ ผู้สมัครที่จัดว่าอยู่ในกลุ่มหรือมุ้งของนิพนธ์ ได้แก่ เขต 1 สรรเพชญ บุญญามณี บุตรชายนายนิพนธ์

                  เขต 2 ภิรพล ลาภาโรจน์กิจ เขต 7 ศิริโชค โสภา และเขต 8 พล.ต.ต.สุรินทร์ ปาลาเร่ ในขณะที่
                  ผู้สมัครอีก 4 คน ซึ่งจัดอยู่ในกลุ่มหรือมุ้งของถาวร ไม่มาร่วมงาน ได้แก่ เขต 3 วิรัตน์ กัลยาศิริ เขต 4

                  ชัยวุฒิ ผ่องแผ้ว เขต 5 เดชอิศม์ ขาวทอง และเขต 6 ถาวร เสนเนียม แม้กระทั่งผู้สมัครในระบบบัญชี
                  คือ เจือ ราชสีห์ ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่ของการจัดเวทีปราศรัยในครั้งนี้ก็ไม่ได้มาร่วมงาน จนอภิสิทธิ์ ต้องกล่าว

                  บนเวทีเพื่อให้ผู้ฟังคลายความสงสัย ว่า “คุณเจือ ยังอยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ได้หายไปไหน ที่ไม่มา
                  ร่วมเวทีวันนี้เพราะไปช่วยปราศรัยหาเสียงที่จังหวัดสตูล” (อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ, ปราศรัย 3 มีนาคม 2562)


                          อภิสิทธิ์ ปราศรัยด้วยการเน้นนโยบายของพรรคประชาธิปัตย์ว่า แก้จน สร้างคน สร้างชาติ

                  พรรคจะเริ่มต้นด้วยการแก้จนเพราะเศรษฐกิจ เรื่องปากท้องเป็นเรื่องใหญ่ที่สุด การแก้จนต้องเริ่มที่ทำาให้
                  คนส่วนใหญ่มีรายได้ที่มั่นคง พรรคประชาธิปัตย์เชื่อมั่นว่าจะแก้ไขปัญหาราคายางได้ เช่น การสร้างถนน
                  ด้วยส่วนผสมยางพาราได้ทำามาแล้ว 24 สาย โดยองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา ราคายางต้องไม่ตำ่ากว่า

                  60 บาทต่อกิโลกรัม แก้ไขเอกสารสิทธิที่ดิน แก้ไขกฎระเบียบการทำาประมง ซึ่งปัจจุบันปฏิบัติได้ยาก

                  หากแก้ไขปัญหาราคายาง ปาล์มนำ้ามัน ประมง แล้วฟื้นตัวได้ เศรษฐกิจของภาคใต้ก็จะฟื้นดีขึ้นอย่าง
                  แน่นอน ในขณะที่พรรคการเมืองอื่นๆ ยังไม่มีมาตรการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจอย่างชัดเจน


                          อภิสิทธิ์ ยังวิพากษ์วิจารณ์นโยบายสวัสดิการแห่งรัฐของพรรคพลังประชารัฐว่ามีจุดอ่อน
                  ไม่สามารถแก้ไขปัญหาชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนได้ แต่พรรคประชาธิปัตย์จะไม่ยกเลิกบัตรสวัสดิการ

                  แห่งรัฐของรัฐบาล แต่จะปรับปรุงแก้ไขให้คนที่ได้รับเป็นคนจนที่แท้จริง ส่วนคนที่ไม่ได้จนจริงจะริบบัตรคืน
                  และต้องดำาเนินการให้สอดคล้องกับหลักการสวัสดิการที่มีความยั่งยืน ชัดเจน เพื่อสร้างความเท่าเทียม

                  อีกทั้งยังต้องสามารถซื้อสินค้าได้อย่างหลากหลาย เช่น ผู้ค้ารายย่อย ตลาดสด ไม่ใช่เฉพาะร้านที่มีบัตรรูด
                  เช่นในปัจจุบัน ด้วยการโอนเงินเข้าบัญชีแล้วนำาไปใช้จ่ายที่ใดก็ได้


                          นอกจากนี้ อภิสิทธิ์ยังอภิปรายด้วยการใช้สโลแกนของพรรคในการเลือกตั้งครั้งนี้ว่า “ประชาชน

                  เป็นใหญ่ ประชาธิปไตยสุจริต” เพื่อสะท้อนให้เห็นว่าพรรคประชาธิปัตย์มีความเข้าใจในหลักการของ
   110   111   112   113   114   115   116   117   118   119   120